วันที่ 3 มีนาคม เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ร.ต.อ.นิรันทร์ ถวัลย์ภูวนาถ รอง สว.สส.สภ.เมือง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว นางสาวอรอนงค์ หรือแขก ภู่กระโทก อายุ 43 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 595 ถนนเบญจรงค์ ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาสอบสวน พร้อมของกลางเอกสารทางราชการ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยนางสาวอรอนงค์ หรือแขก ร่วมกับนางสาวเจี๊ยบไม่ทราบชื่อและนามสกุล อ้างว่ารับราชการอยู่ในตำแหน่งระดับสูง ร่วมกันหลอกลวงว่าสามารถฝากเข้าทำงานราชการ ต้องเสียเงินค่าวิ่งเต้นรายละ 1 -3 แสนบาท ล่าสุดได้ก่อเหตุในท้องที่ สภ.โพธิ์กลาง และสภ.เมือง มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้แล้วกว่า 10 ราย
นางสาวออย (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ติดต่อนางสาวอรอนงค์ หรือแขก ตามคำแนะนำของเพื่อนคนหนึ่ง ว่าสามารถฝากเข้าทำงานราชการได้ โดยนางสาวอรอนงค์ อ้างว่าทำงานอยู่ที่สรรพากรจังหวัด และสามารถฝากเข้าทำงานได้ ขณะนี้กำลังเปิดรับเจ้าหน้าที่เพื่อบรรจุแทนคนเก่าที่ลาออกไป จึงหลงเชื่อ จากนั้นนางสาวอรอนงค์ ได้แนะนำให้ติดต่อกับนางสาวเจี๊ยบ ที่อ้างว่าทำงานเป็นเสมียนอยู่หน้าห้องผู้อำนวยการระดับจังหวัด สามารถวิ่งเต้นให้เข้าทำงานในหน่วยงานราชการได้ ในตอนแรกเกิดความสงสัยจึงตรวจสอบข้อมูล ก็ไม่พบว่ามีปิดประกาศรับสมัครตามระเบียบราชการผ่านทางเว็บไซต์ หรือสื่อประสัมพันธ์อื่นๆ แต่นางสาวเจี๊ยบ ยังยืนยันว่าเปิดรับสมัครเป็นการภายใน ต้องเสียค่าวิ่งเต้นเอกสาร และต้องจ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 5,000 บาท โดยให้นางสาวอรอนงค์ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้นัดหมายพบกันที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขามิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในระหว่างเจรจาตกลงกัน นางสาวอรอนงค์ แสดงอาการพิรุธ และมีท่าทีเร่งรีบผิดปกติ ทำให้ตนคิดว่าถูกหลอกหลวง จึงให้เพื่อนที่มาด้วยกันใช้กล้องโทรศัพท์ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ และสามารถติดตามจับกุมได้ในที่สุด
ด้านนางสาวอรอนงค์ ให้การสารภาพว่าทำมาแล้วหลายครั้ง จะอ้างตัวเป็นบุคคลที่ทำงานในหน่วยงานราชการต่างๆ แบบไม่ซ้ำ ใช้กลอุบายโดยการพูดจาหว่านล้อมว่าสามารถฝากเข้าทำงานที่กรมทางหลวง , องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสรรพากร โดยมีเหยื่อหลงเชื่อและยอมจ่ายเงินให้หลายรายบางรายได้เงินถึง 3 แสนบาท สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินจ่ายหนี้การพนัน และเตรียมเลี้ยงลูกในท้อง ซึ่งมีอายุครรภ์ 4 เดือน ส่วนนางสาวเจี๊ยบ เป็นนกต่อให้ช่วยรับโทรศัพท์ เงินที่ได้จะนำมาแบ่งกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับตัวนางสาวเจี๊ยบ ผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
