เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความและประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ใช้อำนาจ มาตรา 44 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บวรมงคล 3 นาย ไปช่วยราชการนอกพื้นที่ กรณีถูกกล่าวหาค้าสำนวนยัดข้อหาผู้ต้องหาและเรียกเก็บเงินผู้ต้องหา 2.4 ล้านบาท โดยมี พ.ต.อ.ดุษฎี อายวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า นำพยานหลักฐานมามอบให้รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พบว่าน่าจะมีมากกว่า 3 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว ในคลิปเสียงพูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการ(ผกก.)และอัยการ รวมทั้งขอให้ตำรวจ 3 นาย หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากผู้เสียหายถูกข่มขู่จนไม่กล้ามาออกสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม อีกทั้งยังขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยคุ้มครองพยานด้วย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า รับมอบหมายจากพล.อ.ไพบูลย์ ให้มารับเรื่องจากทางชมรมเหยื่ออาชญากรรม ตนจะพิจารณาสำนวนก่อนส่งเรื่องให้ พล.อ.ไพบูลย์ อีกครั้ง สำหรับคดีดังกล่าวผู้เสียหายยื่นเรื่องที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสื่อมวลชนนำภาพผู้เสียหายไปเผยแพร่สาธารณะทำให้เจ้าตัวตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเรื่องนี้จะเสนอให้ ป.ป.ท. เพื่อช่วยคุ้มครองพยาน เนื่องจากมีการโทรศัพท์มาข่มขู่ นอกจากนี้ยังทราบข่าวว่าทางตำรวจทั้ง 3 นาย ย้ายไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.น. แล้ว อย่างไรก็ตามจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนสรุปหาข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
