ชาวบ้านอุ่นใจ หลังรัฐเข้าตรวจสอบคลังก๊าซสร้างทับคลอง เผยต่อสู้คัดค้านตั้งแต่ต้น-เจอโทรศัพท์ข่มขู่

จากกรณีที่ชุดฉลามขาว ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างคลังก๊าซแอลพีจีของ บริษัท เอ็นเอสก๊าซ แอลพีจี จำกัด บริเวณชายฝั่งทะเลหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เนื้อที่กว่า 43 ไร่ ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารสำนักงาน, ติดตั้งบัลล์หรือถังบรรจุแก๊สขนาดใบละ 1,000 ตัน จำนวน 8 ใบ ระยะแรกก่อสร้างเพียง 4 ใบ พร้อมกับมีท่าเทียบเรืออีกจำนวน 1 ท่า นั้น จนเป็นที่มาของการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 14 มิ.ย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าบริเวณคลังก๊าซดังกล่าว ซึ่งมีการสร้างท่าเทียบเรือลงในไปทะเลประมาณ 300 เมตร ซึ่งสร้างคร่อมคลองน้อยซึ่งเป็นคลองหลักที่ชาวบ้านใช้สัญจร มีคนงานนั่งจับกลุ่มอยู่ประมาณ 3 คน และพบการก่อสร้างคืบหน้าไปมากคาดว่าไม่เกิน 1 เดือนจะเสร็จ ซึ่งชาวบ้านต่างรู้สึกอุ่นใจที่ต่อสู้กับโครงการนี้กันมานานร้องเรียนไปแห่ง หลายหน่วยงานขอให้ชะลอเพื่อตรวจสอบกฎหมาย แต่โครงการนี้ก็ยังเดินหน้ามาโดยตลอดท่ามกลางข่าวลือที่ว่า เจ้าของคลังแก๊สอ้างว่ามีเส้นสายกับผู้มีอำนาจรัฐ จึงไม่รู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่ แต่เมื่อชุดฉลามขาวเข้ามาตรวจสอบก็รู้สึกว่าชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้างว่าหน่วยงานรัฐจะเข้ามาดูแลปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้าง

นายชวน เกิดทองดี ชาวตำบลแหลมใหญ่ กล่าวว่า ตนและชาวบ้านในพื้นที่ทำอาชีพประมงโดยใช้คลองน้อยแห่งนี้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรเข้าออกทะเลกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นประจำทุกวัน จู่ๆ เมื่อปลายปี 2558 ก็มีการสร้างคลังก๊าซ รวมทั้งการสร้างท่าเทียบเรือคร่อมคลองน้อย ชาวบ้านจะใช้เส้นทางไหนเข้าออกทำมาหากินเลี้ยงปากท้องเลี้ยงดูครอบครัว อีกทั้งยังทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลนพื้นที่ดอนหอยหลอด ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือ อนุสัญญาแรมซาร์ไซต์ ซึ่งดอนหอยหลอดอยู่ลำดับที่ 1099 ประกาศเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2543 นอกจากนี้ การที่คลังก๊าซสร้างถนนเข้าในพื้นที่ยังสร้างสะพานข้ามคลองน้อยอีกตัวหนึ่งที่ชาวบ้านใช้สัญจรเป็นทางลัดจากทะเลเข้าหมู่บ้านช่วงฤดูลมมรสุม ลมแรงชาวบ้านจะใช้เส้นทางสายนี้ในการหลบลม ซึ่งเมื่อน้ำขึ้นสูงเรือก็ไม่สามารถลอดสะพานไปได้ สร้างความเดือดร้อนหนักไปอีก

Advertisement

“ที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านพยายามต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2559 ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ซึ่งตนก็ได้รับผลกระทบมีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์มาหากลางดึกไม่มีคนพูดแต่มีเสียงคล้ายปืนหลายนัดลักษณะเหมือนจะข่มขู่ ตนจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม และสั่งกับครอบครัวไว้ว่าหากเป็นอะไรไปก็มีเรื่องเดียวคือเรื่องนี้เท่านั้น กระทั่ง ได้มีคำสั่งให้ชะลอโครงการเพื่อตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ก็ยังเดินหน้าสร้างจนถึงทุกวันนี้ จึงไม่ทราบว่าทำไมจึงกล้าทำ ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่ามีอำนาจเหนือกว่ากฎหมายได้อย่างไร จนถึงข่าวลือที่อ้างว่าเป็นผู้ใกล้ชิดผู้มีอำนาจรัฐนั้นจริงหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประสูตร รัศมีแพทย์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และปัจจุบันเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เคยมาเป็นประธานเปิดป้ายการก่อสร้างท่าเทียบเรือแห่งนี้ แต่เมื่อชุดฉลามขาวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบครั้งนี้ตนก็รู้สึกอุ่นใจว่าชาวบ้านยังมีความหวังบ้างว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหันมาสนใจดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้าง”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image