จากวลีปัญหา “เฟซออฟ” (Face Off) การทำศัลยกรรมนายสุรชัย สมบัติเจริญ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง จนทำให้ นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทยร้องเรียน ดร.เซปิง ไชยศาส์น ว่าเป็นการพูดเกินจริง เนื่องจากไม่มีการใช้คำว่าเฟซออฟในวงการศัลยกรรมความงามนั้น ล่าสุดนายสุรชัยออกมาเผยโฉมการทำศัลยกรรมครั้งแรก จนเกิดคำถามว่านี่คือเฟซออฟหรือไม่
เรื่องนี้ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา ในฐานะแพทย์ศัลยกรรมความงาม กล่าวว่า จากการพิจารณาภาพจากสื่อ เห็นชัดว่าเป็นการทำศัลยกรรมปกติที่เรียกว่า เฟซลิฟต์ (Face Lift) คือการดึงและยกกระชับใบหน้าขึ้น อย่างที่เห็นมีการดึงใบหน้าให้ตึงขึ้นไปเหนือหน้าผาก ไปด้านข้างและบริเวณคาง โดยดึงทุกส่วนบนใบหน้า ขณะเดียวกันก็มีการเสริมด้วยการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ไม่ให้เกิดพวกร่องตีนกา ไม่ให้เกิดเส้นเกิดหลุมที่ลึก นอกจากนี้ยังมีการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดรอยเหี่ยว เติมเต็มรอยหลุมร่องลึกให้ตื้นขึ้น โดยวิธีเหล่านี้ต้องทำซ้ำทุก 6 เดือน นอกนั้นก็มีการศัลยกรรมทำตา แต่จากการมองเบื้องต้นไม่พบว่ามีการทำจมูก
“สิ่งสำคัญคือ ต้องชื่นชมว่าทำออกมาดี และยินดีกับคุณสุรชัยที่ชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ทำให้เห็นว่าหมอไทยมีความสามารถ แต่ไม่อยากให้หลงประเด็น เรื่องศัลยกรรมดีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่การทำให้คนเข้าใจผิดเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะจากการมองแล้วไม่ใช่เฟซออฟ แต่เป็นเฟซลิฟต์ นอกนั้นก็มีเฟซล็อก (Face Lock) เป็นการดึงหน้าบางส่วน และยังมีเฟซทรานสแพลนต์ (Face Transplant) การเปลี่ยนใบหน้าไปเลย เป็นต้น” นพ.สัมพันธ์กล่าว
แหล่งข่าวด้านศัลยกรรมความงาม กล่าวถึงกรณีการทำศัลยกรรมนายสุรชัยว่า จากภาพที่เห็นตามสื่อโซเชียลนั้น ตนมองว่าเป็นเพียงการศัลยกรรมปกติ คือ มีการดึงหน้า เก็บทั้งหมดไว้ด้านข้าง และมีการฉีดโบท็อกซ์ร่วมด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องรอดูต่อไปอีก 6 เดือนว่าจะมีการหย่อนคล้อยหรือไม่ ถ้ามีก็จะต้องไปเติมโบท็อกซ์ ไปเติมฟิลเลอร์อีก ซึ่งเป็นการศัลยกรรมที่ทำกันอยู่แล้ว แต่ถือว่าทำออกมาดี ซึ่งแพทย์ไทยมีฝีมือมาก ส่วนราคาก็มีหลายราคา เบื้องต้นถ้าทำลักษณะนี้ดึงหน้าทั้งหมด ทำตาสองชั้น ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 แสนบาท แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ามากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมนอกจากอยากสวยแล้ว ต้องมีความปลอดภัยด้วย ล่าสุด ทาง นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ความรู้เรื่องฟิลเลอร์ว่า ปัจจุบันสถานเสริมความงามมีการใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดฉีดเพื่อลดริ้วรอย ที่มักเรียกกันว่าการฉีดฟิลเลอร์ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีหลากหลายชื่อการค้า แต่มีส่วนประกอบหลักคือกรดไฮยาลูรอนิก กรดดังกล่าวมีคุณสมบัติในการเก็บกักน้ำได้ดีจึงช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น อย่างไรก็ดี กรดไฮยาลูรอนิกเป็นสารที่ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้เอง โดยพบได้ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็นต่างๆ กรดไฮยาลูรอนิกมีราคาค่อนข้างแพง จึงมีการลักลอบใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมในสถานเสริมความงามบางแห่ง ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ว่ามีกรดไฮยาลูรอนิกจริงตามที่อ้างไว้ ดังนั้น สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้พัฒนาและตรวจสอบความถูกต้องของวิธีวิเคราะห์ปฏิกิริยาคาร์บาโซลเพื่อใช้เป็นวิธีตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่มีการระบุว่ามีกรดไฮยาลูรอนิกเป็นส่วนประกอบ
นพ.อภิชัยกล่าวว่า จากการตรวจวิเคราะห์ของกลางที่ได้รับ 27 ตัวอย่าง ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 5 ตัวอย่าง และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน 22 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตรวจพบกรดไฮยาลูรอนิก 100% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ตรวจไม่พบกรดไฮยาลูรอนิกตามที่กล่าวอ้างไว้ถึงร้อยละ 27.3 แสดงให้เห็นว่าสถานเสริมความงามบางแห่งในไทยมีการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ไม่มีกรดไฮยาลูรอนิกเป็นองค์ประกอบตามที่ระบุในฉลาก ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพนอกจากไม่เกิดประโยชน์ยังอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคควรใช้บริการจากสถานเสริมความงามที่ถูกกฎหมาย และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.อย่างถูกต้องเท่านั้น
