รอยปริภายใน กรมอุทยานฯ-กรมป่าไม้ วนศาสตร์ กับป่าไม้แพร่

สร้างแรงกระเพื่อมส่อเค้าว่าจะรุนแรงอีกระลอก ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เมื่อผลการคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ทั่วประเทศ ในตำแหน่งว่าง 17 เก้าอี้ตำแหน่ง

ปรากฏว่าไม่มีศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ (วน.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) ได้รับแต่งตั้งแม้แต่คนเดียว

ว่ากันว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับแต่มีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง (ซี 9) ในตำแหน่งนี้ ที่ไม่มีศิษย์เก่า วน.อยู่เลย

ตำแหน่ง ทสจ.อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานปลัด ทส. ปัจจุบันมีนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัด ทส.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด

Advertisement

หลังจากประกาศรายชื่อ ทสจ.ออกมา ทุกคำถามมุ่งตรงไปยังปลัดเกษมสันต์ ผลคัดเลือกออกมาแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อผู้สมัครตำแหน่ง ทสจ.ที่มาจาก วน. มีความสามารถ มีความอาวุโส เพียงพอที่จะเข้ารับตำแหน่งหลายคน กลับไม่เข้าวินแม้คนเดียวไม่ได้รับการคัดเลือก

ปลัดเกษมสันต์ตอบคำถามชนิดรวบรัดว่า ผลการคัดเลือกเป็นไปตามคะแนนที่แต่ละคนทำออกมา

วิถีการทำงานภายใน ทส.ที่ผ่านมา รู้กันว่าในส่วนของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีการแบ่งแยกกันอยู่ในที ระหว่างผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนป่าไม้แพร่กับผู้มาจากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Advertisement

พูดได้ว่า ลูกพี่ใคร จบมาจากไหน รุ่นใดขึ้นมาเป็นใหญ่ รุ่นน้องมักจะได้อานิสงส์ได้รับการดูแลเสมอ

กลุ่มที่จบมาจากวนศาสตร์มักคิดว่า ตัวเองถือไพ่เหนือกว่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ เพราะเรียนหลักสูตรปริญญาตรี ขณะที่โรงเรียนป่าไม้แพร่ได้แค่อนุปริญญา ต้องไปเรียนต่ออีก 2 ปีจึงจะได้ปริญญาตรี ถึงกระนั้นก็มีศิษย์เก่าป่าไม้แพร่ไม่น้อยที่จบออกมาทำงานและเรียนต่อ แม้สามารถขึ้นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯในทุกวันนี้

แต่เมื่อย้อนไปดูสถิติ ยังไม่เคยมีศิษย์เก่าจากโรงเรียนป่าไม้แพร่คนไหน ขึ้นไปถึงระดับอธิบดีภายในกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเลยแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะกรมอุทยานฯและกรมป่าไม้ ศิษย์เก่าวนศาสตร์ผูกขาดเก้าอี้อธิบดีมาตลอด จะมีคนนอกสอดแทรกเพียงไม่กี่สมัย อย่างเช่น ปลัดเกษมสันต์ อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ศิษย์เก่าคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ส่วนตำแหน่งสูงสุดที่ศิษย์เก่าจากโรงเรียนป่าไม้แพร่เป็นอยู่ในเวลานี้ เช่น นายศักดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสมชาย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้ และตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) หรือตำแหน่งป่าไม้เขตเดิม มีทั้งหมด 15 พื้นที่ มีศิษย์เก่าวนศาสตร์ 6 คน โรงเรียนป่าไม้แพร่ 9 คน

ศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่รายหนึ่ง และเป็นผู้บริหารระดับสูงในกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้ภาพระหว่าง 2 สถาบันว่า ความเป็นจริงแล้ว ครูบาอาจารย์ที่สอนอยู่ในโรงเรียนป่าไม้แพร่ก็คือมาจากคณะวนศาสตร์ และนักเรียนป่าไม้แพร่ที่จบออกมาก็ไปเรียนต่อ และเติบโตขึ้นมาควบคู่กับคนจบวนศาสตร์ ความรู้ไม่ได้แตกต่างกัน เป็นเพื่อนกัน มีอยู่ยุคหนึ่งที่อธิบดีกรมอุทยานฯแม้จะเป็นวนศาสตร์ แต่เปิดโอกาสให้กับทุกคนที่มีความรู้ ความสามารถ และซื่อสัตย์ ได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่โดยไม่คำนึงถึงสถาบัน

“แต่ต่อมาในช่วงรัฐมนตรี ทส.คนหนึ่ง มีป่าไม้แพร่คนหนึ่งพยายามเข้าไปตีสนิท จนได้รับความไว้วางใจ กระทั่งสนับสนุนให้กลุ่มป่าไม้แพร่เติบโตมากกว่าแห่งอื่นโดยวิถีที่ไม่เป็นที่ยอมรับกันมากนัก ตั้งแต่นั้นก็เริ่มแบ่งแยกเป็นพวกใคร พวกมัน ทุกครั้งเมื่อจะมีการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ภายในกรม ทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ผมเองก็ไม่ชอบบรรยากาศเช่นนี้เลย” ศิษย์เก่าป่าไม้แพร่ระบุ

ด้านศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ ผู้บริหารระดับ 9 กรมป่าไม้อีกคน บอกว่า ความจริงแล้วไม่เคยคิดแบ่งแยก ความเป็นป่าไม้แพร่กับวนศาสตร์เลย มีทั้งลูกน้องและอดีตเจ้านายที่ไม่ใช่วนศาสตร์หลายคน แต่ประเด็นที่กลายเป็นปมปัญหาวงการป่าไม้วันนี้คือ คำถามที่มีต่อปลัดเกษมสันต์ ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการสอบตำแหน่ง ทสจ.ครั้งนี้ ว่าทำไมผลการสอบออกมาเช่นนี้

“เราสงสัยกันว่า วนศาสตร์หลายคนที่สมัครสอบ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ คุณสมบัติพร้อม เขาไม่ผ่านกันสักคนเลยหรือ ขณะที่คนที่สอบผ่านบางคน จบเอกภาษาอังกฤษมา ระดับเงินเดือนก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะได้รับตำแหน่งนี้ตามระเบียบราชการ ที่สำคัญเป็น ทสจ.ต้องไปบริหารจัดการทรัพยากรภายในจังหวัด ทำไมได้รับการคัดเลือกมา ที่พวกเราตั้งคำถามว่า ทำไมการแต่งตั้ง ทสจ.คราวนี้ไม่มีวนศาสตร์เลย เราไม่ได้หมายความว่า อะไรๆ ก็ต้องวนศาสตร์ แต่เราต้องการตั้งคำถามว่า ในบรรดาผู้ที่สมัครสอบทั้งหมดนั้น คนวนศาสตร์ไม่มีใครมีความสามารถจริงๆ หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่นแทรกแซง” ศิษย์เก่าวนศาสตร์กล่าว

แรงกระเพื่อมระหว่าง 2 สถาบัน ทำท่าจะขยายวงกว้างออกไปอีก เพราะล่าสุดศิษย์เก่าวนศาสตร์กำลังรวมตัวกันแต่งชุดดำ เพื่อทวงถามสาเหตุแท้จริงในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image