เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยและได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 66 ราย จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 1,820,000 บาท
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กทม.ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนทุกคนในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ให้ความร่วมมือและการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวและประชาชน รวมทั้งจัดพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนา 5 ศาสนา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดดังกล่าว กทม.ได้จ่ายเงินช่วยเหลือในลักษณะค่าปลอบขวัญ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.กรณีผู้เสียชีวิต ให้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 50,000 บาท 2.กรณีบาดเจ็บต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลเกินกว่า 20 วันขึ้นไป ให้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 30,000 บาท 3. กรณีบาดเจ็บต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลไม่เกิน 20 วัน ให้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือ เบื้องต้น จำนวน 10,000 บาท โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ชาวไทยมารับมอบเงินช่วยเหลือ 38 ราย ประกอบด้วย ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย รายละ 50,000 บาท เป็นเงิน 300,000 บาท ผู้ป่วยบาดเจ็บต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลเกินกว่า 20 วันขึ้นไป จำนวน 10 ราย รายละ 30,000 บาท เป็นเงิน 300,000 บาท ผู้ป่วยบาดเจ็บต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลไม่เกิน 20 วันขึ้นไปจำนวน 22 ราย รายละ 10,000 บาท เป็นเงิน 220,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 820,000 บาท
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 28 ราย กทม.ได้เชิญสถานเอกอัครราชทูตจาก 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เป็นตัวแทนรับมอบเงินช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 1,000,000 บาท
