สบส.ฟัน รพ.ศัลยกรรม’สุรชัย’ เหตุหลักฐานชัดโฆษณาร่วมผ่านเฟซบุ๊ก

สบส.ฟัน รพ.ศัลยกรรม’สุรชัย’ เหตุหลักฐานชัดโฆษณาร่วมผ่านเฟซบุ๊ก อธิบดี สบส.ชง’ดร.เซปิง’หากมีข้อมูลส่งมา พร้อมตรวจสอบคลินิกหมอชลธิศ

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการโฆษณาสถานพยาบาล ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้แทนแพทยสภา อัยการเชี่ยวชาญ ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีการกระทำเข้าข่ายการโฆษณาของสถานพยาบาลเสริมความงาม คือ โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการเสริมความงามขนาด 30 เตียง ขึ้นทะเบียนถูกต้อง โดย รพ.ได้ดำเนินการผ่าตัดเสริมความงามให้นายสุรชัย สมบัติเจริญ นักร้องลูกทุ่งในโครงการเฟซออฟ (Face off) ของ ดร.เซปิง ไชยศาส์น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559

น.ต.นพ.บุญเรืองกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติว่าสถานพยาบาลดังกล่าวมีความผิดฐานโฆษณาประชาสัมพันธ์ เนื่องจากยินยอมให้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อวดอ้างสรรพคุณในการให้บริการเสริมความงาม ซึ่งเมื่อทราบแล้ว แทนที่จะทักท้วง แต่กลับนิ่งเฉย ประกอบกับข้อมูลการตรวจสอบล่าสุดพบว่าทางสถานพยาบาลเองมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์เองด้วย เห็นได้จากข้อมูลทางเฟซบุ๊กของ รพ. มีการลงภาพข่าวการแถลงโครงการ “เฟซออฟ กระชากวัย 60 เหลือ 35 โดย ดร.เซปิง” ซึ่งยังมีข้อมูลเชื่อมไปกับ รพ.อีก ตรงนี้ถือว่าผิดชัดเจนว่าโฆษณาเป็นความผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 38 ที่ระบุว่า สถานพยาบาลต้องไม่ยินยอมให้โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณ จะมีโทษปรับ 20,000 บาท และถ้ายังไม่ยุติหรือทักท้วงการโฆษณาจะปรับเพิ่มวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะมีการยุติการเผยแพร่

น.ต.นพ.บุญเรืองกล่าวว่า ส่วนแพทย์ที่อยู่ที่สถานพยาบาลแห่งนี้จะเข้าสู่อนุกรรมการโฆษณาของแพทยสภาที่จะพิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนคนที่ไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ดำเนินการโฆษณานั้น จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยหลังจากนี้ สบส.จะทำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการเปรียบเทียบคดี เพื่อเปรียบเทียบปรับภายใน 30 วัน โดย สบส.จะทำหนังสือเปรียบเทียบปรับให้ รพ.ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ ซึ่งหาก รพ.มาจ่ายค่าปรับเรื่องก็จะยุติตามกฎหมาย แต่หากไม่ปฏิบัติตาม ทาง สบส.จะส่งฟ้องศาลต่อไป

Advertisement

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า จากการสืบสวนข้อมูลพบว่า รพ.ดังกล่าวมีการโฆษณาบนเฟซบุ๊กของตนเอง โดยแปะภาพงานแถลงข่าวเปิดโครงการของ ดร.เซปิง และทางคณะอนุกรรมการฯได้เข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของ รพ. ก็พบว่ามีลิงก์เฟซบุ๊กที่ตรงกัน จึงไม่น่าใช่เฟซบุ๊กปลอม และ สบส.ได้เก็บหลักฐานทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ ในวันที่นายสุรชัยผ่าตัดเสริมความงามนั้น ยังปรากฏภาพภายในอาคารของสถานพยาบาลนั้นๆ ซึ่งถือเป็นการโฆษณาเช่นกัน โดย รพ.ไม่ทักท้วง ซึ่งภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นภายในตัวอาคาร สถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัดให้นายสุรชัย และยังมีภาพของแพทย์ให้คำปรึกษา พร้อมกับพยาบาลให้การดูแล ซึ่งเป็นการโฆษณาเกินกว่ากฎหมายอนุญาต ขัดกับประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 11 พ.ศ.2546 เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล ซึ่งผิดตามมาตรา 38

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทาง ดร.เซปิงระบุว่า คำว่าเฟซออฟ ไม่ได้สื่อถึงการแพทย์ ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริง น.ต.นพ.บุญเรืองกล่าวว่า คำพูดจะแต่งหรือเขียนอะไรก็ตาม แต่การประชาสัมพันธ์สื่อถึงกระบวนการทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว สามารถลดวัย เป็นกระบวนการแปลกใหม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่วิธีการแปลกใหม่ และที่เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง คือตัวโครงการระบุว่า กระชากวัยได้ 60 ปี เหลือ 35 ปี ซึ่งไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่จะกระชากวัยลงได้มากขนาดนั้น ถือว่าเข้าข่ายโฆษณาโอ้อวดเกินจริง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ดร.เซปิงเปิดเผยข้อมูลเอาผิด นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ว่าไม่ได้ทำศัลยกรรมให้คนไข้เอง แต่ให้พยาบาลทำ น.ต.นพ.บุญเรืองกล่าวว่า ดร.เซปิงหากมีข้อมูลข้อเท็จจริงก็สามารถส่งมาที่ สบส. ซึ่งจะเข้าไปตรวจสอบเอง เพราะเรื่องนี้สำคัญหากมีหลักฐานจริง จะถือว่าผิด 2 ข้อ 1.เจ้าของคลินิก หรือสถานพยาบาล ซึ่งเป็นแพทย์ปล่อยให้บุคคลอื่นไม่ใช่วิชาชีพแพทย์มาทำการผ่าตัด ถือว่าผิดกฎหมายสถานพยาบาล และ 2.บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการผ่าตัดถือว่าเป็นหมอเถื่อน โดยจะมีการตรวจสอบต่อไป

Advertisement

วันเดียวกัน ด้าน นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณี ดร.เซปิงออกมาเปิดเผยว่า นพ.ชลธิศไม่ได้ทำศัลยกรรมด้วยตัวเอง แต่ให้พยาบาลเป็นผู้ดำเนินการแทน จึงได้เตรียมแจ้งความกลับนั้น ว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิของ ดร.เซปิง ส่วนตนไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ และกรณีอื่นๆ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดปรากฏการณ์โต้ไปโต้มา เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รายวัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากภาพของนายสุรชัย หลังศัลยกรรมมองว่าเป็นเฟซออฟหรือไม่ นพ.ชลธิศกล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามข่าวสารใดๆ ไม่ขอออกความเห็น

201603041717381-20050719124019

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image