ไทยหวังร่วม “เฟล็กที” “ขายไม้คุณธรรม” ส่งเสริมสวนป่าในอนาคต

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ตรวจราชการทส.แถลงข่าวการทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจในการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ ธรรมาภิบาล และการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป หรือ (Forest Law Enforcement, Governance and Trade:FLEGT-เฟล็กที)

นายประลอง กล่าวว่า แผนปฏิบัติการเฟล็กที เริ่มจากปัญหาการทำไม้และค้าไม้ผิดกฎหมาย จึงทำให้สหภาพยุโรปทั้ง 28 ประเทศ ได้ออกกฎระเบียบว่าด้วยการห้ามจำหน่ายไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ที่ผิดกฎหมายในตลาดยุโรป (อียู- EUTR (EU Timber Regulation) มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ในการเข้าร่วมทำข้อตกลงเฟล็กที ซึ่งการเข้าร่วมจะทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนา ปรับปรุงระบบทำไม้ภายในประเทศอย่างมีธรรมาภิบาลผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม และสามารถปรับปรุงแก้ไขกฎหมายป่าไม้ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

“ที่ผ่านมาการส่งออกไม้ไปยังสหภาพยุโรปต้องใช้เอกสารแนบประกอบมากมาย ทำให้การส่งออกล่าช้า แต่หากประเทศไทยได้ร่วมเฟล็กทีแล้ว ลายเส้นเฟล็กทีจะเป็นเครื่องมือการันตีว่าไม้ที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปนั้นถูกต้องตามกฎหมาย และจะส่งไปยุโรปได้ง่ายขึ้น มีราคาการส่งออกที่สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยจะเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ปลูกสวนป่า สามารถส่งเป็นท่อนไม้ แปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ กรอบรูป หรือผลิตภัณฑ์ไม้เกือบทุกประเภท และสามารถส่งออกไปยังตลาดยุโรปที่ได้ราคามากกว่า ซึ่งปัจจุบันไทยได้ส่งออกไม้ไปยังตลาดสหภาพยุโรปมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านต่อปี แต่หากได้ลายเส้นเฟล็กทีแล้วจะสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้มากกว่าแสนล้านต่อปี” นายประลอง กล่าว

ผู้ตรวจราชการทส. กล่าวว่า สำหรับกระบวนการขอลายเส้นเฟล็กทีนั้น ประเทศไทยจะนำร่างผนวกเข้าหารือเชิงเทคนิคกับสหภาพยุโรประหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน นี้ และจะมีการเจรจาระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรปในวันที่ 29-30 มิถุนายน นี้ด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่ากระบวนการขอเฟล็กทีนั้นค่อนข้างนาน อย่างประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาถึง 13 ปี เวียดนามเข้าสู่กระบวนการปีที่ 7 แล้ว สำหรับไทยได้ตั้งเป้าไว้ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ปี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image