เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองทะเบียนทรัพย์สินและพัสดุ สำนักการคลัง มีหนังสือด่วนที่สุดเพื่อขออนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดหาเสื้อยืดโปโล จำนวน 200,000 ตัว ราคาตัวละ 248 บาท เป็นเงิน 49.6 ล้านบาทและจัดหาชุดเอี๊ยมกันน้ำกันน้ำพร้อมรองเท้าบูท จำนวน 1,000 ชุด ราคาชุดละ 1,200 บาท เป็นเงิน 1.2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 50.8 ล้านบาท พร้อมอ้างเหตุผลการจัดซื้อจัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ท้วงติงถึงการแต่งกายของเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนได้พิจารณาแล้วว่าโครงการจัดซื้อเสื้อโปโลดังกล่าวมีราคาแพงเกินไป โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่เสนอขึ้นมาเท่านั้นยังไม่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งตนก็ได้ตอบกลับไปแล้วว่า ตนไม่ซื้อ ตนไม่เอาเพราะมันแพงไป และให้พับเก็บโครงการทันที นอกจากนี้ยังมีผู้เสนอขึ้นมาอีกว่าทางกทม.เคยจัดซื้อในราคาเดียวกันเมื่อปี 2548 แล้ว ตนก็บอกไปอีกครั้งตนไม่เอา ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ซื้อ สำหรับเหตุผลการจัดซื้อเสื้อโปโลและเอี๊ยมกันน้ำนั้น เมื่อทราบราคาว่าตัวละ 248 บาทก็ไม่เอาแล้ว เพราะตนเคยจัดซื้อให้กับนักเรียนนายร้อยในการแข่งกีฬานายร้อย 4 เหล่าก็ราคาไม่ถึง 200 บาท
เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯกทม.มีความเห็นอย่างไรจากการถูกประชาชนมองว่าไม่โปร่งใส พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ทราบเรื่องมาก่อน ตนเพิ่งมาทราบเรื่องจากข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนการพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าท้วงติง ก็คงไม่มีหรอกเพราะอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ตนเอง นายกฯคงไม่ก้าวล่วงเพราะกทม.เป็นเขตการปกครองพิเศษที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว ทั้งนี้ นายกฯคงไม่มาสั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หากสั่งให้ทำโครงการใหญ่ๆ อย่างโครงการรถไฟฟ้าอย่างนั้นคงจะสั่งการมา
เมื่อถามอีกว่าการอ้างเหตุผลว่านายกรัฐมนตรีได้ท้วงติงแสดงว่าเป็นเท็จหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ให้ ไปนำหนังสือมาให้ดูว่าอยู่ตรงไหน ตนยังไม่เห็นเลยเพียงแต่ยื่นคำขาดไปว่าไม่ซื้อเพราะแพง ส่วนเรื่องที่นายกท้วงติงไม่มีเรื่องนี้ ท้วงติงแต่เรื่อง ขยะอุดท่อมันจะอันตรายเท่านั้น
เมื่อถามอีกว่ามองว่าโครงการดังกล่าวถูกข้าราชการภายในเป็นการดิสเครดิต หรือทำให้เสียชื่อเสียงหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ตนจะได้รู้ว่าโครงการต่างๆ จัดซื้อจัดจ้างมันแพง ส่วนเรื่องการดิสเครดิตหรือให้เครดิตตนไม่ใส่ใจ เพียงตนมาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และให้จำไว้ว่า ตนไม่ใช่นักการเมือง ส่วนเงินทองตนไม่ต้องการ
