วันที่ 5 มีนาคม บรรยากาศที่หมู่บ้านชาวไทยใหม่หรือชาวเลหาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีชาวเลบางส่วนที่คอยสังเกตการณ์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) คนงานของบริษัทบารอนได้นำรถแบ๊กโฮเข้าปรับพื้นที่ตามที่อ้างเอกสารสิทธิ จนเกือบมีการปะทะกันเกิดขึ้น จนกระทั่งนายโชคดี อมรวัฒน์ รอง ผวจ.ภูเก็ต น.อ.สถาพร วาจารัตน์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.สมาน ไชยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้ประสานตัวแทน บ.บารอนพูดคุยจนได้ข้อสรุปว่าทาง บ.บารอนจะยอมยุติการดำเนินการและนำรถแบ๊กโฮออกจากพื้นที่ จนกว่าทางจังหวัดจะมีการประกาศหนังสือสำคัญที่หลวง หรือ นสล.ในที่ดินกว้าง 3.4 เมตร ยาวตลอดแนวชายหาดและอยู่นอกเอกสารสิทธิของ บ.บารอนแล้วเสร็จ จึงจะเข้ามาปรับพื้นที่อีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะมีการประกาศ นสล.ในวันที่ 16 มี.ค.
รายงานระบุว่า ภายหลังที่ บ.บารอนยอมยุติการดำเนินการชั่วคราว ทำให้ในวันนี้ชาวเลราไวย์ได้มีโอกาสกลับมาใช้เส้นทางเข้า-ออกไปยังบาลัยและจุดจอดเรือ รวมถึงจุดที่ทำลอบดักปลาอีกครั้ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลองได้เข้ามาตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านและบริเวณพื้นที่พิพาททุกๆ 2 ชม.
จากการสอบถามนายนิรันดร์ หยังปาน หนึ่งในตัวแทนชาวเลราไวย์ กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของชาวเลก็อยู่ระหว่างหารือกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เบื้องต้นทราบว่ายังเหลืออีกแนวทาง คือการร้องศาลเพื่อขอคุ้มครองและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสิทธิที่ดิน ซึ่งตัวแทนจะต้องมีการหารือเพื่อหาแนวทางปกป้องที่สาธารณะแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลานต่อไป
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ในส่วนของ บ.บารอนเองก็ยังไม่ได้มีการร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองสิทธิแต่อย่างใด โดยอ้างว่าทางบริษัทมีความเชื่อมั่นในเอกสารสิทธิที่ครอบครอง และยืนยันจะดำเนินการในที่ดินต่อไปตามสิทธิตามกฎหมาย
