คุมหน.แก๊งปล้นปืนวังบูรพาชี้ 8 จุดประกอบรับสารภาพ ฝากขังพรุ่งนี้ เผย”ซูซู”ที่อ้าง ซื้อซิมมือถือให้นักเที่ยวจีน

จากกรณีเหตุแก๊งคนร้ายชาวจีนบุกปล้นร้านจำหน่ายอาวุธปืนย่านวังบูรพาใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัดจนคนร้ายเสียชีวิต 1 คนและจับกุมได้อีก 3 คน ก่อนควบคุมตัวนายเจิ้ง หยาง อายุ 30 ปี หัวหน้าแก๊งชาวจีนได้ที่จังหวัดนครสวรรค์ขณะนั่งรถไฟหลบหนีไปยังจังหวัดเชียงใหม่ โดยขบวนรถนอนสายด่วนที่ 51 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพื่อเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศผ่านทางชายแดนภาคเหนือ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลต่อนั้น

จี้จุด3
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ ได้ควบคุมตัวนายเจิ้น หยาง อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 8 จุดโดยเจ้าหน้าตำรวจได้ควบคุมตัวนายเจิ้ง หยาง เริ่มต้นจาก เกสท์เฮาส์จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่ย่านถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นจุดที่นายเจิ้ง หยาง และคนร้ายรายอื่นๆ ได้เข้าพักครั้งแรกหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่27กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาซึ่งประกอบด้วยจุดแรกบริเวณพิชชี่ เกสท์เฮาส์ ได้เข้าพักที่ห้อง2-Aเป็นเวลา 4 คืน จุดที่ 2 แฮปปี้โอ เกสท์เฮาส์ และจุดที่3โฟ ซัน วิลเลท เกสท์เฮาส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงในการนำตัวนายเจิ้ง หยางไปชี้จุดที่ห้องพักทั้ง 3 แห่ง ก่อนจะคุมตัวไปทำแผนยังจุดที่ 4 ที่บริเวณสวนรมณีนาถ ถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นจุดรวมตัวก่อนก่อเหตุ และเป็นจุดจอดรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาก่อนเดินที่จะเรียกรถตุ๊กตุ๊ก ส่วนจุดที่ 5 บริเวณ หน้าร้านจำหน่ายปืน ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์อาร์ม ภายในซอยสามยอดพลาซ่า ย่านวังบูรพา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยนายเจิ้ง หยาง ได้อยู่บริเวณชั้น 2 อาคารฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุโดยใช้วิทยุในการสั่งการและดูต้นทาง ก่อนที่จะไปยังจุดที่ 6 ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นจุดที่นำวิทยุสื่อสารไปทิ้ง ขณะที่จุดที่ 7 คือ บริเวณภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นจุดที่นายเจิ้ง หยาง หลบหนีไปขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ และจุดที่ 8 คือที่โรงพยาบาลตากสิน คือจุดนัดหมายรวมพลหากก่อเหตุสำเร็จ

จี้จุด4
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า นายเจิ้ง หยางยอมรับว่าเป็นหัวหน้าแก๊งในการก่อเหตุครั้งนี้ มีจุดประสงค์ต่อทรัพย์สิน ส่วนรายละเอียดที่จะต้องทำการติดตามตรวจสอบสอบสวนเพื่อจะทำให้สอดคล้องกับคำรับของนายเจิ้ง หยางก็ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวนที่จะต้องหาหลักฐานมาเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในสิ่งที่นายเจิ้ง หยางให้การรับสารภาพ แต่นายเจิ้ง หยางรับว่าได้มาทำผิดจริง วางแผน เป็นหัวหน้า เป็นคนมาดูต้นทางโดยบันทึกภาพวิดีโอ และสั่งการผ่านวิทยุ

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำอาวุธไปก่อเหตุในพื้นที่ท่องเที่ยว พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า มีทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้แต่เชื่อว่าลักษณะอย่างนั้นเป็นลักษณะความผิดเฉพาะตน ถ้าจะกระจายว่าทำให้แหล่งท่องเที่ยวเสียหายคงไม่ใช่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือความมั่นคง ยืนยันว่ามาลงมือก่อเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุจะหลบหนีไปทางอาร์สามเอ ซึ่งจะนั่งรถไฟไปจ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะนั่งรถโดยสารไปจ.เชียงราย ต่อจากจ.เชียงรายเข้าประเทศลาว ผ่านจากประเทศลาวเข้ายูนาน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณต้นเดือนตุลาคมปี 2557 นายเจิ้ง หยางรับว่าเคยมาประเทศไทยด้วยเครื่องบินก่อนที่จะกลับในเส้นทางนั้น ส่วนที่อ้างนายซูซูนั้น จากการสอบถามทราบว่าได้ประกอบธุรกิจการนำเที่ยวที่ประเทศจีน เป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในไทย และได้มีการซื้อซิมโทรศัพท์เป็นหลักร้อยหลักพันเพื่อขายให้นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามใครที่เกี่ยวข้องยังไม่ปักใจเชื่ออาศัยจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีและพบว่ามีความเชื่อมโยง เป็นไปตามกระบวนการให้คลายข้อสงสัย ขณะเดียวกันก็ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนมาโดยตลอดเพื่อขอข้อมูลประวัติของผู้ที่เข้ามาก่อเหตุ ให้คลี่คลายสิ้นในข้อสงสัย นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง และในวันพรุ่งนี้ 7 มีนาคม จะคุมตัวนายเจิ้ง หยาง ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เวลา 10.00 น.ต่อไป

Advertisement

ด้านนายเจิ้ง หยาง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้ง 5 คน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง มีจุดประสงค์ต่อทรัพย์สินเท่านั้นเองไม่เกี่ยวกับการก่อการร้ายแต่อย่างใด ไม่ต้องการให้ทั้งสองประเมศมีความบาดหมางกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image