พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการชำระเงินค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ และส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวนกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่ง กทม.ได้รับโอนภารกิจจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า รัฐบาลจะเป็นผู้พิจารณาจ่ายเงินในส่วนนี้ทั้งหมด ส่วนการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ การเดินรถ การซ่อมบำรุง กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เป็นผู้บริหารจัดการ และเคทีได้จ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอสเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน จำนวน 1 สถานี จากแบริ่ง-สำโรง และขณะนี้ สภากทม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญ จำนวน 15 ราย ศึกษาพิจารณาการจ่ายค่าติดตั้งระบบ ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ
ทางด้านนายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า ภายหลังที่ กทม.มอบหมายให้เคทีบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งเคทีได้ลงนามว่าจ้างรถไฟฟ้าบีทีเอสติดตั้งระบบและให้บริการเดินรถ เบื้องต้น รถไฟฟ้าบีทีเอสได้คิดอัตราค่าจ้างในการเดินรถเดือนละ 20 ล้านบาท และตั้งแต่เปิดทดลองเดินรถเมื่อเดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน เคทียังไม่ได้ดำเนินการจ่ายเงินในส่วนนี้ ล่าสุดรถไฟฟ้าบีทีเอสจึงมีหนังสือถึงกทม.แจ้งว่า หาก กทม.ยังไม่สามารถจ่ายเงินเป็นค่าจ้างเดินรถได้ รถไฟฟ้าบีทีเอสจะคิดดอกเบี้ยในอัตราปีละ 5.2 บาท
