กทม.มั่นใจประสิทธิภาพ ‘ระบบป้องกันน้ำท่วม’

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยของศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม.ว่า ตามที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ จำนวน 195 ล้านบาท ปรับปรุงศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ล่าสุด กทม.ได้ดำเนินการในส่วนของการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้ทันสมัย ทำระบบไฟฟ้าสำรอง จัดทำข้อมูลเพื่อประมวลผลสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์อย่างครอบคลุม รวมทั้งมีการสำรองข้อมูล เมื่อฐานข้อมูลหลักล่มหรือมีปัญหา นอกจากนี้ ได้มีการเชื่อมสายไฟใยแก้วนำแสง หรือไฟเบอร์ออพติค จากสถานีสูบน้ำ 131 สถานี สถานีตรวจวัดระดับน้ำ 263 สถานี รวมทั้งสถานีวัดอัตราการไหลของน้ำอีก 32 สถานี ส่งผลให้สามารถรายงานสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที และรับทราบข้อมูล เพื่อนำไปแก้ปัญหาได้อย่างรอบด้านยิ่งขึ้น

นายจักกพันธุ์ กล่าวอีกว่า กทม.ได้พัฒนาศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังให้เป็นศูนย์ต้นแบบการบริหารจัดการน้ำ โดยยึดแนวทางจากโครงการตามแนวพระราชดำริ และแนวคิดการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน โดยภายในประกอบด้วย 7 พื้นที่ ได้แก่ 1.ภาพแห่งความทรงจำ วันเสด็จเปิดศูนย์ป้องกันน้ำท่วม 2.ควบคุมน้ำให้ได้ดั่งประสงค์ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการตามแนวพระราชดำริ 3.ประมวลพระราชดำรัส 64 ตอน 4.บันทึกเหตุการณ์สำคัญ 5.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คลี่คลายปัญหาน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ 6.ศูนย์ควบคุมระบบและป้องกันปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และ 7.แนวทางแก้ปัญหาตามแนวพระราชดำริ คาดว่าจะสามารถตรวจรับได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้

“สิ่งที่กังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปริมาณน้ำเหนือ แม้กรมชลประทานจะแจ้งเตือน กทม.ทุกครั้งเมื่อมีการปล่อยน้ำลงมาก็ตาม ปัจจุบัน กทม.มีศักยภาพรองรับน้ำได้ไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณน้ำยังไม่ถึงค่าดังกล่าว นอกจากนี้ กองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ กทม.จะควบคุมระดับน้ำในคลองโดยเฉพาะคลองสายหลักอาทิ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองแสนแสบ เป็นต้น ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากปริมาณน้ำฝนไม่เกิน 60 มิลลิเมตร (มม.) ต่อวินาที กทม.มั่นใจสามารถควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมผิวจราจรได้” นายจักกพันธุ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image