กทม.เร่งเขื่อนคลองลาดพร้าว 2,883หลังคายอมรื้อย้าย

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังนำคณะลงพื้นที่ติดตามการรื้อย้ายบ้านรุกล้ำริมคลองลาดพร้าว บริเวณชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง ว่า ในการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว มีบ้านเรือนที่รุกล้ำคลองทั้งหมด 6,541 หลังคาเรือน อยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อน 3,720 หลังคาเรือน กทม.โดย 8 สำนักงานเขตพื้นที่ได้ร่วมกับสำนักการระบายน้ำ ลงพื้นที่เจรจาทำความเข้าใจกับประชาชน มี 2,883 หลังคาเรือน ยินยอมที่จะรื้อย้ายโดยเข้าร่วมโครงการกับ กทม. ในจำนวนนี้ได้รื้อย้ายไปแล้ว 534 หลังคาเรือน อยู่ระหว่างรื้อย้ายอีก 2,349 หลังคาเรือน

“เฉพาะในพื้นที่เขตห้วยขวางมีบ้านที่รุกล้ำในแนวก่อสร้างเขื่อน 1,542 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้อยู่ในแนวที่ต้องทำเขื่อน 1,042 หลังคาเรือน ประชาชนยินยอมเข้าร่วมโครงการ 932 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้ เป็นชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ 79 หลังคาเรือน และ 30 หลังแรกจะรื้อย้ายภายในวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อให้ กทม.เข้าพื้นที่ตอกเสาเข็ม ส่วนที่เหลืออีก 49 หลังคาเรือน ประชาชนรับปากว่าจะรื้อย้ายออกให้เร็วที่สุด” นายจักกพันธุ์ กล่าวและว่า ในภาพรวมการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวความยาวทั้งสิ้น 45,184 เมตร (ม.) ขณะนี้สามารถตอกเสาเข็มได้ 9,216 ม. เสาเข็มที่ตอก 12,005 ต้น ขณะเดียวกัน ได้มีการทำแผงกันดินความยาว 4,475 ม. ทำคานและทางเดิน 1,983 ม. และทำราวกันตก 219 ม. ทันทีที่ กทม.สามารถเข้าพื้นที่ได้จะเริ่มตอกเข็ม จากนั้นจะก่อสร้างแผงกันดิน ทำคานและทางเดิน และทำราวกันตก ทั้งนี้ กทม.วางแผนตอกเสาเข็มให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้

นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของชุมชนที่ยังไม่รื้อย้ายออกจากพื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่จะพยายามเข้าไปเจรจาพูดคุยกับประชาชนให้เข้าใจถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับในการก่อสร้างเขื่อนต่อไป เพราะการก่อสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าวของรัฐบาล ไม่ใช่เพื่อการป้องกันน้ำท่วมและแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียเท่านั้น แต่ต้องการให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าวได้มีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง ไม่ต้องรุกล้ำคลองสาธารณะ เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image