| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน หน้า 23 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เดือนสิงหาคมนี้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เตรียมวางเสาเข็มแรกสร้างแฟลตดินแดงใหม่ ตามโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงแน่นอน 99.99 เปอร์เซ็นต์แล้ว ภายหลังคณะกรรมการชุมชนและผู้นำชุมชนโครงการเคหะชุมชนดินแดงกว่า 30 คน ที่มาประชุมซักถามข้อสงสัยโดยตรงกับ บิ๊กอู๋-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ นางอุบลวรรณ สืบยุบล รักษาการผู้ว่าการ กคช.
ต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันที่จะยกเลิกข้อเรียกร้องแกนนำคัดค้านการทุบแฟลตดินแดงให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) มาพิสูจน์สภาพความแข็งแรงของอาคารเพื่อซื้อเวลาอยู่ต่อ
เพราะบัดนี้เข้าใจเนื้อหาโครงการแล้ว และยังอยากให้เดินหน้าโครงการฟื้นฟูให้เร็วที่สุด ตลอดจนขอร่นระยะเวลาก่อสร้างตามแผนแล้วเสร็จ 8 ปีให้สั้นที่สุด
หนึ่งในตัวแทนผู้อยู่อาศัยยังย้ำมติชาวชุมชนดินแดงในที่ประชุมว่า “ตอนนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัยคนใดคัดค้านโครงการอีกแล้ว เราพร้อมใจอยากให้เริ่มสร้างเลยด้วยซ้ำ”
พลิกปูมกลับไปถึงมหากาพย์เรื่องนี้ที่มีการต่อต้านยาวนานถึง 16 ปี 5 รัฐบาล
เริ่มตั้งแต่ ปี 2543 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่และฟื้นฟูเมืองชุมชน โดยผู้อยู่อาศัยยอมรับว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าแฟลตกำลังถูกทุบ จากนั้นปี 2546 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือเอไอที ตรวจสอบสภาพอาคารพบชำรุดทรุดโทรม สมควรให้มีการปรับปรุงอาคาร และตรวจซ้ำในปี 2550 ก็ยังพบความเสียหายเพิ่มเติม
ต่อมา วสท.เข้าไปตรวจทานการตรวจสอบของเอไอที เห็นว่า กคช.สามารถปรับปรุงในส่วนเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงและประโยชน์ใช้สอยของอาคารได้ แต่ในปีเดียวกันทางคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ มีมติถึงกรณีแฟลตดินแดงไม่ควรปล่อยให้เสี่ยงต่อไป เพราะซ่อมไม่คุ้มค่า ดังนั้น ไม่ต้องซ่อม ขอให้ กทม.รับเรื่องการสั่งระงับการใช้อาคารเสี่ยงไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ระหว่างที่แต่ละหน่วยงานถกเถียงให้ทุบบ้าง ซ่อมบ้าง ขณะที่ กคช.ก็ซ่อมแซมอาคารแฟลตดินแดงไปตามหน้าที่นั้น
ด้านผู้อยู่อาศัยเริ่มได้ชุดข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่แท้จริงการทุบแฟลต เพื่อจะสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จนเกิดการลุกฮือรวมตัวคัดค้านการทุบแฟลต พร้อมไล่ผู้บริหาร กคช.ในขณะนั้น เมื่อผู้อยู่อาศัยรวมพลังได้อย่างน่ากลัว รัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชนไม่ว่าใครก็ไม่กล้าแตะ ก็เป็นที่มาให้เรื่องยืดเยื้อถึงทุกวันนี้
เมื่อมาถึงในยุค “บิ๊กอู๋” กว่าสถานการณ์จะมาถึงจุดนี้ “ไม่ใช่ง่าย” แต่เพราะมีสไตล์การทำงานแตกต่างจาก รมว.พม.คนอื่นๆ
เริ่มจากเป็น รมว.พม. “คนแรก” ที่กล้าลงพื้นที่แฟลตดินแดง กล้าปะหน้าผู้อยู่อาศัยทั้งที่รู้ว่าเสี่ยงต่อการถูกต่อว่า ขว้างปาสิ่งของ เพราะชาวบ้านยังเข้าใจชุดข้อมูลเดิมๆ แต่ก็ลุยเดินจากแฟลตสู่แฟลต จากห้องสู่ห้อง เข้าไปดูถึงในห้อง เข้าไปพูดคุยเจ้าของห้อง
บิ๊กอู๋ลงพื้นที่ถึง 2 ครั้ง จนเกิดเป็นคณะกรรมการการมีส่วนร่วมการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ที่มีตัวแทนจาก กคช. ตัวแทนจากชาวชุมชนมาประชุมเดินหน้าโครงการร่วมกัน ในเดือนสิงหาคม 2558
เหตุการณ์กำลังไปด้วยดี ทว่าในเดือนมกราคม 2559 ตัวแทนชาวชุมชนทั้งหมดตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการการมีส่วนร่วมฯ โดยอ้างว่าข้อเรียกร้องที่ผ่านมาไม่ถูกตอบสนองเลย เช่น ขนาดห้องเท่าเดิม 42 ตร.ม. ค่าเช่าเท่าเดิมที่ราคา 1,000 บาทต่อเดือน
ว่ากันว่า “ช็อตนี้” ทำเอา “บิ๊กอู๋ควันออกหู” สั่งทีมงานลงพื้นที่สืบข่าว หาปัจจัยการตัดสินใจครั้งนี้ ก็โป๊ะเชะเจอปัญหาอื้อซ่า! ตั้งแต่ การสวมสิทธิหลายห้องเพื่อปล่อยเช่าช่วง การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง การใช้ประโยชน์พื้นที่ทางการค้าเกินกว่ากำหนด
ซึ่งคนกลุ่มนี้จะ “เสียประโยชน์” หากทุบแล้วสร้างใหม่ จึงเคลื่อนไหวไม่ให้โครงการฟื้นฟูเดินหน้า ภายหลังได้ข้อมูลสืบข่าวมาระดับหนึ่ง เคี่ยวกรำความคิดจนได้ที่ บิ๊กอู๋จัดประชุมใหญ่เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแรกสตอรี่มาพูดคุย ก่อนยิงแสกหน้าเหล่าแกนนำคัดค้านการทุบแฟลตดินแดง ถึงข้อมูลสืบข่าวที่เชื่อมโยงแกนนำบางคน
ซึ่งจุดนี้ทำเอาแกนนำบางคนหายหน้าหายตาไปเลยในช่วงหลัง บิ๊กอู๋ยังชี้แจงถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าข้อเรียกร้องที่ไม่มีอยู่จริง เช่น ไม่มีห้องขนาด 42 ตร.ม. เพราะห้องใหญ่สุดจริงๆ มีที่ 39.8 ตร.ม. ซึ่งมีเพียงร้อยละ 8 ของห้องทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่ก็รอมชอมที่จะรับข้อเสนอค่าเช่าเท่าเดิม พร้อมดูแลค่าส่วนกลางที่เหมาะสม ผู้อยู่อาศัยเดิมที่มีครอบครัวขยาย จุดนี้ทำให้แกนนำบางคนเสียงเงียบไป แต่ก็ไม่วายมีขบวนการไปกระจายชุดข้อมูลผิดๆ เพื่อหวังปลุกระดมผู้อยู่อาศัยอีกครั้ง
บิ๊กอู๋จึงตัดสินใจส่งชุดปฏิบัติการ ซึ่งสนธิกำลังระหว่างฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายสังคมสังเคราะห์ลงพื้นที่เคาะประตูทุกห้อง เพื่อชี้แจงโครงการ ตรวจสอบสิทธิ ตลอดจนสอบถามความเห็นและข้อเสนอที่มีต่อโครงการ ได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ที่อยากให้เดินหน้าโครงการฟื้นฟู เสียงส่วนใหญ่ยอมรับขนาดห้องใหม่ที่ 33 ตร.ม.
จุดนี้เองชาวบ้านบอกว่า “ประทับใจมาก ขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ที่ส่งทีมงานลงพื้นที่ไปชี้แจงข้อมูลกับเรา มันเป็นสิ่งที่เราไม่รู้มาก่อน ตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ชาวชุมชนอยากให้เดินหน้าโครงการแล้ว”
“ผมแก้ปัญหาบนหลักความจริง อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดว่าตามกฎหมาย ที่ผ่านมาที่แก้ไม่ได้เพราะมีผลประโยชน์มหาศาล แต่ผมจริงใจ จริงจัง ทำเต็มที่ด้วยความซื่อสัตย์ อย่างเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ทุก 07.00 น. ผมจะต้องประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาแฟลตดินแดงก่อน มันก็เหนื่อย แต่รู้สึกดีใจที่วันนี้โครงการเดินหน้าไปได้ และเคลื่อนไปในสิ่งที่ดี
“ประเด็นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ความสนใจมาก ผมต้องรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ พอผลออกมาอย่างนี้ ท่านก็บอกว่าดีใจ” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวทั้งรอยยิ้ม
พล.ต.อ.อดุลย์ร่วมถ่ายภาพกับชาวชุมชนดินแดงที่มาซักถามข้อสงสัย ก่อนพร้อมใจเดินหน้าโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง
พล.ต.อ.อดุลย์ลงพื้นที่ครั้งแรก
อาคารดินแดงใหม่สูง 25-35 ชั้น ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างตามแผน 8 ปี รองรับผู้อยู่อาศัยรวม 20,292 หน่วย
ผังห้องขนาด 33 ตร.ม. ซึ่งจะมีห้องน้ำอยู่ทางด้านหน้าของห้อง ซึ่งสะดวกต่อการซ่อมบำรุง ส่วนท้ายห้องเปิดให้ชมวิวด้านหลังเต็มที่ มีชานยื่นออกนอกห้องเพื่อทำครัว
