เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วยนพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. และนพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ประชุมมอบนโยบาย ด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อ และการดำเนินการในกรณีมีโรคติดต่อสำคัญตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แก่ผู้บริหารสำนักงานปลัด สธ. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 230 คน โดย นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2559 มีสาระสำคัญเรื่องการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคที่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพประชาชน สอดคล้องกับกฎหมายนานาชาติและเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชน ให้สามารถจัดการภัยสุขภาพได้ทันการณ์ และเพื่อให้การทำงานลุล่วง ล่าสุดได้มอบหมายให้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ตั้งคณะทำงานประจำช่องทางเข้าออกด่านควบคุมโรค พร้อมทั้งสื่อสาร สร้างความเข้าใจกับหน่วยงานในจังหวัด และประชาชนเกี่ยวกับพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
นพ.ปิยะสกล กล่าวอีกว่า สำหรับการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ จะมีด้วยกัน 4 เรื่อง ได้แก่ 1.เร่งรัดการกำจัดและกวาดล้างโรคที่เป็นพันธะสัญญากับนานาชาติ และโรคที่ไทยสามารถควบคุมได้ดีระดับหนึ่งแล้ว 7 โรค ได้แก่ โปลิโอ โรคหัด โรคพิษสุนัขบ้า เอดส์ โรคเรื้อน มาลาเรียและโรคเท้าช้าง 2.พัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตรายที่ไม่มีในประเทศไทยอย่างเต็มที่ เพื่อลดโอกาสการระบาดในประเทศให้เหลือน้อยที่สุด เช่น โรคเมอร์ส อีโบลา 3.ควบคุมโรคติดต่อประจำถิ่น 14 โรค เช่น โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โรคจากสัตว์สู่คน เป็นต้น ด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาวะประชาชนให้น้อยที่สุด และ4.ลดการตีตราหรือเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคติดต่อทุกชนิด