พสกนิกรรวมใจเข้ากราบสักการะพระบรมศพ นับ 6 หมื่น 9 พันคน

เมื่อวันที่ 23 กันยายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล เป็นวันที่ 289 โดยแบ่งออกเป็น 4 รอบ เวลา 10.00 น., 14.30 น., 17.00 น. และเวลา 19.00 น. รอบละ 11 คณะ คณะละ 50 คน

สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 22 กันยายน หลังปิดการขึ้นกราบถวายสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 02.56 น. ของวันที่ 23 กันยายน จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 69,027 คน รวม 324 วัน มี 11,065,577 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,930,666 บาท รวม 324 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 820,324,701.51 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 325 พบพสกนิกรใช้โอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมายังท้องพิธีสนามหลวงอย่างล้นหลาม ประกอบกับสำนักพระราชวังออกประกาศให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในวันที่ 30 กันยายนเป็นสุดท้าย ตั้งแต่ช่วงมืดมีประชาชนมาต่อแถวรอกราบสักการะจำนวนมากจนแถวยาวออกไปจากสนามหลวง กระทั่งหางแถวยาวจรดบริเวณแยกรักษาดินแดน โดยประชาชนที่ต่อแถวจะต้องเดินทบแถวไปตลอดถนนทั้ง 2 ฝั่ง จนถึงประตูตรงข้ามศาลฎีกา โดยมีฝนตกเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่ามีประชาชนมาเฝ้ารอในช่วงบ่ายนับ 30,000 คน

Advertisement

คณะครูจากโรงเรียนสฤษดิเดช อ.เมือง จ.จันทบุรี กล่าวว่า ออกเดินทางมาจากจันทบุรี ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน และมาถึงท้องสนามหลวงเวลา 03.00 น.ก็มาต่อแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยได้เข้าแถวรอคิวตั้งแต่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ เนื่องจากประชาชนได้เดินทางมาอย่างล้นหลาม ทำให้แถวได้วกไป-มากระทั่งปลายแถวมาสุดตรงบริเวณวงเวียนรักษาดินแดน สำหรับทางคณะครูส่วนใหญ่ได้เดินทางมายังท้องสนามหลวงเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดภารกิจจำนวนมาก จนในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เป็นโอกาสดีจึงได้เดินทางมายังสนามหลวง อย่างไรก็ตาม ทางคณะครูได้ใช้เวลารอแถวจนบัดนี้ถึง 11 ชั่วโมงแล้ว และยังไม่ได้เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ขณะเดียวกันฝนก็ได้ตกโปรยปรายเป็นระยะ ทางคณะก็ไม่ได้ถอดใจ เพราะอยากกราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ตามใจที่มุ่งมั่น

นางสาวลดาวัลย์ ไตรสุวรรณ อายุ 45 ปี ประชาชนย่านสุขาภิบาล 3 เดินทางถึงสนามหลวงตั้งแต่เวลา 05.00 น. รอประมาณ 10 ชม. จึงได้เข้ากราบพระบรมศพ กล่าวว่า เดินทางมากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก เพราะรู้สึกว่าอย่างไรก็ต้องมาสักครั้งหนึ่ง ความรักความประทับใจที่มีต่อพระองค์นั้นมากมายเสียจนไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้ ตอนที่กราบพระบรมศพก็ได้แต่น้อมรำลึกถึงเรื่องราวที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอด แต่สิ่งที่ตัวเองยึดเหนี่ยวและน้อมนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอคือความเพียร เพราะเป็นสิ่งที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี อย่างวันนี้ได้เข้ากราบพระบรมศพแล้วก็รู้สึกสบายใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาถวายความจงรักภักดี แสดงถึงความอาลัย ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดชีวิตตัวเองเคยมีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จพระองค์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่รพ.ศิริราช ตอนที่พระองค์เสด็จฯแปรพระราชฐานไปยังพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2556 แต่เป็นครั้งเดียวที่ประทับตราตรึงใจที่สุดในชีวิต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image