พสกนิกรหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมศพ ‘ในหลวงร.9’ ก่อนปิด 5 ตุลาคม

เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

พสกนิกรจากทั่วทั้งประเทศ ทั้งกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆ มารอเข้าคิวสักการะพระบรมศพไม่ขาดสาย โดยใช้วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จูงบุตรหลานมาโดยพร้อมเพรียงกัน แม้ว่าจะมีแดดร้อนและฝนที่ตกลงมาในช่วงเที่ยง ก็ไม่ย่อท้อแต่อย่างไร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าจุดคัดกรองโรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ และวงเวียนรักษาดินแดน จากนั้นได้ให้ประชาชนเข้าสู่เต็นท์พักคอย ก่อนเข้ากราบสักการะทางประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งปลายแถวนั้นยาวเลยโรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์เล็กน้อย โดยในวันนี้ มูลนิธิพระสงบ มนสสนโต ได้นำหนังสือ พ่อของแผ่นดิน (ธรรมะเก็บตก 16) จำนวน 20,000 เล่ม มามอบให้กับประชาชนที่มากราบพระบรมศพด้วย

น.ส.ชนิดา ตันจ้อย อายุ 37 ปี พนักงานโรงเรียนวัดดอกพิกุล จ.นครนายก ซึ่งเดินทางมากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก เข้ามาต่อคิวตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ก่อนได้เข้าสักการะในเวลาเที่ยงกว่าๆ กล่าวว่า ตั้งใจไว้ว่าอยากมากราบพระบรมศพสักครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีเวลา จนกระทั่งวันนี้คิดว่าหากไม่มาคงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เมื่อได้ขึ้นไปกราบก็รู้สึกตื้นตันใจ ทั้งประทับใจเนื่องจากไม่เคยเห็นการรวมใจของคนไทยเพื่อทำอะไรโดยพร้อมเพรียงกันเช่นนี้มาก่อน

“แม้ว่าจะรอนานก็คุ้มค่า เพราะนี่คือครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ผ่านมาติดตามพระราชกรณียกิจของในหลวง ร.9 อยู่เสมอ โดยเฉพาะพระบรมราโชวาทเรื่องการปิดทองหลังพระ ที่ขอเพียงแค่ให้ได้ทำดีก็พอ ไม่จำเป็นต้องมีคนเห็นก็ไม่เป็นไร ซึ่งก็ได้น้อมนำมาปรับใช้อยู่เสมอ คิดว่าหากมีแต่คนทำงานเบื้องหน้า ไม่มีคนทำงานเบื้องหลัง งานก็คงไม่สำเร็จได้” น.ส.ชนิดากล่าว

Advertisement

นายครรชิต เพ็ญพาด อายุ 43 ปี เกษตรกรชาว อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางมาพร้อมครอบครัวและญาติพี่น้อง โดยออกจากบ้านตั้งแต่สองทุ่มวานนี้ และมาถึงบริเวณสนามหลวงช่วง 02.00 น. เผยว่า ตั้งใจอยากจะมากราบพระบรมศพให้ได้ 3 ครั้ง และก็ทำได้สำเร็จ จริงๆ อยากมาให้มากกว่านี้ แต่ด้วยระยะทาง และอยากพาครอบครัวซึ่งมีเด็กนักเรียนและเด็กเล็กมาด้วย ตอนนี้โรงเรียนปิดแล้วจึงได้มาวันนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทราบว่าจะปิดให้กราบพระบรมศพในวันที่ 30 กันยายน น่าจะมีประชาชนจำนวนเยอะมากเป็นพิเศษ แต่เรามาด้วยความตั้งใจ รอเข้าแถวกว่า 7 ชม. ลำบากแค่ไหนก็อยากจะมา

“พระองค์ท่านเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ เป็นเหมือนจุดศูนย์กลาง และเราก็เดินทางมาเพื่อพบกับแสงสว่าง ทุกครั้งที่ได้มารู้สึกปลาบปลื้มและตื้นตันใจ นึกถึงสิ่งที่พระองค์ทรงมอบให้คนไทย” นายครรชิตกล่าว และว่า

โดยส่วนตัวเป็นเกษตรกรปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ควบคู่ไปกับการปลูกพืชผักหมุนเวียน และผักสวนครัว ตามคำสอนในเรื่องไร่นาสวนผสมของพระองค์ ซึ่งทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ขณะเดียวกันเน้นเรื่องของปุ๋ยหมักชีวภาพมากขึ้น ยาฆ่าแมลงใช้น้ำส้มควันไม้ ทำให้ได้กินพืชผักที่ปลอดภัย โดยนอกจากกินเองในครอบครัวก็นำไปแจกจ่าย หากมีเหลือจึงนำไปขาย นอกจากนี้ยังยึดหลักการอดออมและความพอเพียง ทำให้ชีวิตในตอนนี้มีความสุขเมื่อได้เดินตามรอยพระองค์

Advertisement

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 29 กันยายน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 47,174 คน รวม 331 วัน มี 11,499,402 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,794,062.75 บาท รวม 331 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 856,280,161.26 บาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพ ในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก สามารถทยอยเข้ากราบสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จนหมดในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 30 กันยายน

ครรชิต เพ็ญพาด(คนเสื้อดำ) อายุ 43 ปี เกษตรกรชาว อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางมาพร้อมครอบครัวและญาติพี่น้อง
ชนิดา ตันจ้อย อายุ 37 ปี พนักงานโรงเรียนวัดดอกพิกุล จ.นครนายก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image