ตามที่ปรากฏข่าวกรณีลุงเอี่ยม คัมภิรานนท์ ชายชราพิการป่วยเป็นโปลิโอ แขนขาลีบ ขอทานเงินล้านที่เคยนั่งขอทานอยู่บริเวณภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จ.นครปฐม และสามารถรวบรวมเงินถวายวัดได้ถึง 2 ล้าน เมื่อปี 2556 ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 เห็นชอบ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ห้ามไม่ให้บุคคลใดทำการขอทาน ทำให้ชายชราพิการดังกล่าวเลิกเป็นขอทานและย้ายออกจากวัดไร่ขิงราชวรมหาวิหาร ล่าสุดพบว่าชายชราอยู่ห้องเช่าเพียงลำพัง และมีอาการเจ็บป่วยเนื่องอายุมากขึ้นนั้น
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม (พมจ.นครปฐม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือตามภารกิจของ พม.อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว พม.ได้ดำเนินการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครปฐมได้ลงพื้นที่เยี่ยมชายชราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แต่ชายชราไม่ประสงค์เข้ารับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์ เนื่องจากมีความผูกพันกับวัดไร่ขิง และประสงค์อยู่ที่วัด ซึ่งทางวัดและชาวบ้านพร้อมให้การดูแล นอกจากนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชายชราได้รับบัตรประชาชนและสามารถได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ เป็นต้น
ขณะที่นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมเเละสวัสดิการ (พส.) พม. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนางมยุรี ดำเนินผล ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐมซึ่งได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมลุงเอี่ยมด้วยตนเองว่า ลุงเอี่ยมอยู่สุขสบายดี และก่อนหน้าทางศูนย์ได้ไปเยี่ยมตลอดเวลาทุกสัปดาห์ ไม่พบปัญหาใดๆ ซึ่งที่พักอาศัยปัจจุบันเป็นที่ซึ่งทางวัดจัดให้ ทั้งมีพี่เลี้ยงของวัดมาคอยดูแล ไม่ได้ถูกทอดทิ้งตามที่ปรากฏเป็นข่าว และลุงเอี่ยมก็ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือนมาอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะได้รับเบี้ยความพิการอีกทาง ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้วตนเองพร้อมด้วยนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในขณะนั้นและนายอนุสันต์ เทียนทอง อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมลุงเอี่ยมพร้อมชี้แจงถึง พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ลุงเอี่ยมก็เข้าใจว่าการขอทานผิดกฎหมายและพร้อมปฏิบัติตนตามกฎหมาย
“ซึ่งยังต้องชื่นชมลุงเอี่ยมที่เป็นตัวอย่างของสังคมในการเคารพกฎหมาย ในขณะนั้นลุงเอี่ยมแจ้งความประสงค์ที่ต้องการพักอาศัยอยู่บริเวณวัดซึ่งเป็นที่คุ้นเคย ทางวัดก็จัดสถานที่ให้และดูแลต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐมเข้าไปเยี่ยมเยียนตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หากลุงเอี่ยมประสงค์จะย้ายสถานที่พัก พส.ก็พร้อมดูแลรองรับอย่างเต็มที่” นายพุฒิพัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ พม.โดย น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำ รมว.พม. พร้อมนายพุฒิพัฒน์จะลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือและเยี่ยมเยือนลุงเอี่ยม
