เยี่ยมบ้านลุงเอี่ยมชู 2นิ้วใส่สูท สยบดราม่า สมัครใจเลิกขอทาน วัด-ชุมชนดูแลดี พิมพ์นิ้วมือรับเบี้ยคนชรา

กลายเป็นดราม่าหน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับกรณีลุงเอี่ยม คัมภิรานนท์ ชายชราพิการป่วยเป็นโปลิโอ แขนขาลีบ ขอทานเงินล้านที่เคยนั่งขอทานอยู่บริเวณภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม และสามารถรวบรวมเงินถวายวัดได้ถึง 2 ล้าน เมื่อปี 2556 ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 เห็นชอบพ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ห้ามไม่ให้บุคคลใดทำการขอทาน ทำให้ลุงเอี่ยมตัดสินใจเลิกเป็นขอทานและย้ายออกจากวัดไร่ขิง ล่าสุดมีการประโคมข่าวว่าลุงเอี่ยมถูกขับออกจากวัด ต้องทุกข์ทนเพราะอยู่ห้องเช่าเพียงลำพัง และมีอาการเจ็บป่วยเนื่องจากอายุมากขึ้น จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งรับผิดชอบกลุ่มเป้าหมายคนด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.ควบคุมคนขอทาน ลงพื้นที่โดยนางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมเเละสวัสดิการ (พส.) ทั้งยังเชิญสื่อมวลชนประจำพม.ร่วมสังเกตการณ์และดูสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงว่าปรากฏตามข่าวหรือไม่ จากก่อนหน้านี้ที่พม.เคยให้การช่วยเหลือเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2558 โดยได้นำลุงเอี่ยมมาขึ้นทะเบียนรับสิทธิเบี้ยผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดได้ 600 บาท และเบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรับเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ลุงเอี่ยมอารมณ์ดี อยู่ในชุดสูทรอต้อนรับผู้บริหารพม.และนักข่าว ลุงเอี่ยมยังชูสองนิ้วและยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้งเมื่อมีคนยกกล้องถ่ายภาพตนเอง ขณะที่สภาพความเป็นอยู่นั้น ทางวัดจัดสรรพื้นที่โซนร้านค้าสวัสดิการล็อก 061-062 ให้อยู่อาศัย ภายในมีเก้าอี้ยาว 3 ตัวซึ่ง 2 ตัวแรกประกบเข้าหากันเป็นเตียงนอน มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่หัวนอน ขณะที่อีกตัวเป็นเก้าอี้ไว้นั่ง ยังมีมุ้งหมอน ผ้าห่ม พัดลม และของใช้พื้นฐานที่จำเป็น

ลุงเอี่ยมพูดถึงกระแสข่าวที่ระบุถึงวัดไร่ขิงไล่ออกมาจากวัด ทำให้มีสภาพความเป็นอยู่ลำบากว่า ไม่เป็นความจริง ทางวัดไม่ได้ไล่ แต่ตนออกมาเอง และตอนนี้อยู่สบายดี ทั้งนี้ เข้าใจร่าง พ.ร.บ.ควบคุมคนขอทาน พ.ศ…ที่ไม่อยากให้คนมาขอทาน จะผิดกฎหมายและจะอับอายคนทั่วโลกที่เดินทางเข้ามา โดยตนคิดว่าต้องทำเป็นตัวอย่างให้ขอทานคนอื่นดูเพราะถ้าตนขอได้ คนอื่นก็จะเข้ามาขอเหมือนกัน อย่างไรก็ดี ตอนนี้สุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องการขอความช่วยเหลืออะไร

Advertisement

นางขวัญวงศ์กล่าวว่า เท่าที่ถามจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม ทราบว่ามาเยี่ยมลุงเอี่ยมอย่างต่อเนื่องและได้สอบถามหลายครั้งว่าอยากให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ ลุงเอี่ยมตอบว่าไม่ต้องการให้ช่วยเหลืออะไร อยากอยู่ที่นี่และมีความสุข เพราะมีวัดและชุมชนคอยดูแล รวมถึงอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาดูแลเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม แม้ร่างพ.ร.บ.ควบคุมคนขอทานฯจะยังไม่ประกาศใช้ แต่ลุงเอี่ยมก็ให้ความร่วมมือและเลิกหาเลี้ยงชีพด้วยการขอทาน สมกับที่เคยได้รับรางวัลประชาบดีประเภทบุคคลผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่นปี 2555

 

IMG_5850

Advertisement
IMG_5852
ที่อยู่อาศัยของลุงเอี่ยม

นางขวัญวงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ควบคุมคนขอทานฯ ออกมาเพื่อเอาผิดผู้แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน และผู้ที่เป็นขอทานมืออาชีพ แต่กรณีลุงเอี่ยมไม่ถือว่าเป็นการขอทาน เพราะตามกฎหมายระบุว่าการขอทานเป็นการขอทรัพย์สินด้วยการใช้วาจา ข้อความ หรือการแสดงกิริยาอาการ หรือการใช้ภาชนะหรือวัตถุที่แสดงให้เข้าใจว่าจะให้ใส่ทรัพย์สินในวัตถุนั้น โดยไม่ได้ตอบแทนด้วยการทำงานหรือทรัพย์สิน และไม่ได้ขอในฐานะญาติ แต่สำหรับลุงเอี่ยมเป็นการนั่งเฉยๆ

IMG_5848

S__29253710

 

นายสมพงศ์ ทองเกิด อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 2 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม อาชีพรับจ้างทั่วไป ในฐานะคนใกล้ชิดลุงเอี่ยม กล่าวว่า เจอลุงเอี่ยมเมื่อปี 2536 เห็นแล้วอยากช่วยเหลือ จึงแวะเวียนมาหาบ่อยๆ และมาคอยดูและอยู่เป็นเพื่อน ทั้งนี้ เมื่อก่อนมีคนมาช่วยเหลือลุงเอี่ยมจำนวนมาก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนมาแล้ว ซึ่งลุงเอี่ยมมีหลานสาวขายส้มตำในตัวเมืองนครปฐม แต่หลานสาวไม่มาดูแล ขณะที่ลุงเอี่ยมเองชอบอยู่คนเดียวเพราะไม่ไว้วางใจใคร ส่วนกระแสข่าวที่ลุงเอี่ยมถูกไล่ออกจากวัดและตกอยู่ในสภาพลำบากนั้น ไม่เป็นความจริง อยู่ที่นี่มีคนดูแลช่วยเหลือตลอด

นางมะลิวัลย์ หลี่ค้า อายุ 56 ปี แม้ค้าข้างล็อกที่ลุงเอี่ยมอาศัย และเป็นหนึ่งในผู้ดูแลลุงเอี่ยม กล่าวว่า แม้ลุงเอี่ยมอยู่ที่นี่ลำพัง ไม่มีลูกหลานมาดูแล แต่พวกเราแม่ค้าก็ช่วยกันดูแลลุงเอี่ยมตลอด ไหนจะมีเพื่อนลุงเอี่ยมที่มาช่วยดูแลเป็นระยะ และมีเจ้าหน้าที่ของกรม พส.ที่มาช่วยเหลือตลอด ล่าสุดเพิ่งมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาเอง เอาของใช้มาให้ ทั้งนี้ ลุงเอี่ยมอยู่ดีมีความสุขมาตลอด ปัจจุบันยังมีคนมาเยี่ยม เอาเงินมาให้ เอาของมาฝากอยู่ตลอด แม้ไม่มากกว่าแต่ก่อน แต่เพราะลุงเอี่ยมไม่ได้ใช้อะไร ทำให้ลุงเอี่ยมยังมีเงินเก็บและเมื่อมีจำนวนมากก็ยังไปบริจาควัดเหมือนเดิม

“ในข่าวมันไม่จริงเลย ลุงเอี่ยมไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้อยู่ลำพัง และทางวัดก็ไม่ได้มาห้ามหรือไล่อะไร วันนี้ลุงเอี่ยมก็ยังเข้าวัดได้ปกติ เข้าไปอาบน้ำบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง ทำบุญบ้าง ส่วนที่อาศัยปัจจุบัน วัดก็จัดให้อยู่ฟรี ไม่ได้เก็บค่าเช่าอะไร” นางมะลิวัลย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พม.ได้มอบเงินสงเคราะห์ และของใช้ส่วนตัว ทั้งยังให้ลุงเอี่ยมพิมพ์ลายนิ้วมือบนลงเอกสารเพื่อรับสิทธิเบี้ยดังกล่าว ก่อนจะประสงค์นำเบี้ยที่ได้รับดังกล่าวบริจาควัดไร่ขิงทั้งหมด

 

IMG_5846

มะลิวัลย์ หลี่ค้า

IMG_5847

สมพงศ์ ทองเกิด

 

ลุงเอี่ยมยิ้มแย้มแจ่มใส-โชว์เดิน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image