‘เจ้าคุณพิพิธ’ เคลียร์ปมตั้งสังฆราช รถหรูหรือบุโรทั่ง?เอื้อธรรมกายแบบไหน?ต้องฟัง !

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระราชวิจิตรปฏิภาณ (สุนทร ญาณสุนทโร) หรือ “เจ้าคุณพิพิธ” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มคัดค้านการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมติมหาเถรสมาคมนำเสนอชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) หรือสมเด็จช่วง ว่าประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวสำคัญ เพราะมีผู้ทัดทาน และใส่ร้ายสมเด็จช่วง โดยเรื่องในแง่ลบเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อดำรงตำแหน่งรักษาการตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช แต่เดิมทีเดียวนั้นไม่เคยมี ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตไว้ 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรก เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประชวร จำเป็นต้องตั้งซึ่งปรากฏว่าคณะศิษยานุศิษย์หลวงตามหาบัว บุกไปประท้วงที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ จนกระทั่งรัฐบาลขณะนั้น โดยนายวิษณุ เครืองาม ต้องมาแก้กฎหมาย เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อประนีประนอม เนื่องจากขณะนั้นสมเด็จพระสังฆราชยังไม่สิ้นพระชนม์ ผู้ประท้วงเกรงกลัวจะมีอำนาจเต็ม

ช่วงที่สอง เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ แล้วต้องมีการตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ชื่อของพระมหารัชมังคลาจารย์ก็ถูกนำเสนอตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ จากนั้นมาได้มีผู้พยายามใส่ร้าย โดยนำประเด็นเรื่องวัดพระธรรมกายมาเป็นข้ออ้าง

“อยากถามผู้ออกมาประท้วงว่า ตลอดชีวิตของสมเด็จท่านสร้างความเสียหายอะไรให้กับพุทธศาสนาบ้าง คุณประโยชน์ที่สมเด็จท่านทำให้นั้นมหาศาล และประจักษ์ชัด ในสังฆมณฑลนี้ผู้บริจาคทานบารมีมากสุดคือสมเด็จท่าน ทุกอย่างปฏิบัติตามพระธรรม พระวินัย ตามกฎเกณฑ์ ไม่ได้แสดงถึงความร่ำรวยอย่างที่คนใส่ร้าย เงินที่บริจาคก็เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากมาย

“คนที่ไม่ชอบสมเด็จท่าน คนพวกนี้ไม่เคยกราบไหว้สมเด็จท่านมาแต่เดิม ซึ่งพอเห็นศรัทธาคนซึ่งเกิดขึ้นที่วัดปากน้ำภาษีเจริญแล้วทำใจไม่ได้ สมเด็จท่านไม่อยากเป็นหรอก แต่จำเป็นต้องเป็นตามกฎหมาย” เจ้าคุณพิพิธกล่าว และว่า ต่อข้อที่บอกว่า ถ้าพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นเป็นสังฆราชจะเอื้อให้กับธรรมกาย อยากถามว่า ที่ผ่านมาเคยที่ไหน กระทำตรงไหน เมื่อไหร่ คดีความของธรรมกายมีมหาศาล ก็ล้วนแต่หลุดโดยกฎหมาย ท่านไม่เคยไปโอบอุ้ม การเอาเรื่องธรรมกายมาผูกโยงจึงไม่ใช่เรื่อง

Advertisement

201601191347408-20150928153929

 

“เรื่องต่อมาคือกรณีรถหรู ซึ่งความจริงน่าจะเรียกว่ารถบุโรทั่ง เพราะเป็นรถเบนซ์เก่าๆ ถามว่าถ้าเป็นรถหรู สมเด็จท่านเคยนั่งไปอวดคนมั้ย ก็ไม่เคยนั่ง เรื่องนี้มีอยู่ว่าสมเด็จท่านเคยนั่งรถเก่าๆ คันหนึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมีคนมาเห็นก็ว่าสมเด็จท่านมีรถเก่ารักษาไว้ดี ก็มีคน 2 พวก คือ 1 เอามาถวายเพราะเก็บในบ้านไม่ได้แล้ว เนื่องจากต้องเสียภาษี สมเด็จท่านก็รับ เพื่อให้คนศึกษาเป็นประวัติศาสตร์ 2.คนที่มีปัญหาเรื่องเงิน เอามาขายให้ ท่านก็เมตตาซื้อไว้ ซึ่งความเมตตานี้ก็ได้กลายมาเป็นศาสตรา ที่จะมาบาดมือท่าน

Advertisement


“อยากให้เข้าใจว่า ถ้าเป็นรถหรูมันต้องยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ ราคา 60 ล้านบาท นั่น รถที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ล้วนแต่เป็นเป็นรถบุโรทั่ง ซื้อไว้สงเคราะห์ แค่เป็นยี่ห้อเบนซ์คนก็เลยคิดว่าฟู่ฟ่า ไปดูสภาพรถเถอะแล้วจะรู้ การที่มีผู้จะนำดีเอสไอไปตรวจสอบ อาตมาคิดว่า รัฐบาลคิดผิด คือจะตรวจสอบก็ตรวจสอบกันไป แต่ไม่ใช่ให้มาขวางเรื่องการตั้งสมเด็จพระสังฆราช”
เจ้าคุณพิพิธฯ กล่าว และว่าการที่พระรูปหนึ่งใส่ความออกทีวีทุกวัน การไปถวายสิ่งปฏิกูลดูหมิ่น ถามว่าเหตุใดสมเด็จช่วง ฯ จึงไม่ฟ้องร้อง ตนมองว่า เพราะความใจกว้าง เนื่องจากใจของท่านกับใจพระที่มาประท้วงนั้นมีพื้นฐานคุณธรรมต่างกัน

ติดตามรายงานฉบับเต็ม หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 22 ม.ค. นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image