เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทางวัดเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะ พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายในพระอุโบสถ มีพสกนิกรทยอยเดินทางเข้ามาสักการะ โดยเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. มีพสกนิกรเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เป็นช่วงเวลาทางวัดมีพิธีทำวัตรเช้า ทำให้ภายในอุโบสถมีพสกนิกรเข้าฟังพระภิกษุทำวัตรแน่นพอสมควร ทั้งนี้ ทางวัดได้ปิดประกาศไว้ที่หน้าพระอุโบสถว่า “งดถ่ายรูปในพระอุโบสถ” และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถูกเปลี่ยนที่ตั้งจากหน้าพระอุโบสถไปตั้งวางไว้ด้านในพระอุโบสถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดระเบียบการเข้าถวายสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางวัดได้จัดให้พสกนิกรที่เข้าถวายสักการะขึ้นบันไดทางด้านซ้ายเมื่อหันหน้าเข้าพระอุโบสถทางด้านเดียว และลงที่ประตูพระอุโบสถด้านขวา โดยจะได้รับหนังสือนวมินทรานุสรณียเทศนาและเหรียญพระอังคีรส พร้อมภาพถ่ายสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับพสกนิกรที่เข้ามากราบสักการะเท่านั้น ทั้งนี้ ทางวัดเปิดให้เข้าสักการะเวลา 09.00 -17.30 น.
เวลา 13.00 น.ประตูพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามปิดให้เข้าถวายสักการะ พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ชั่วคราว จากการเปิดเผยของทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเปิดให้เข้าสักการะอีกครั้งในช่วงเวลา 14.00 น.ทำให้พสกนิกรจำนวนกว่า 300 คน ยืนรอต่อแถวท่ามกลางอากาศร้อบอบอ้าวด้วยความตั้งใจ
นายพิเชษฐ์ ประทุมเกษร์ อายุ 72 ปี อดีตพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย เดินทางมาพร้อมกับนางประทุม ประทุมเกษร์ อายุ 67 ปี ภรรยา มาจากบ้านพักย่านตลิ่งชัน กล่าวว่า เดินทางมาที่วัดราชบพิธเป็นวัดแรกตั้งใจมากราบพระบรมราชสรีรางคารก่อนจะเดินทางต่อไปที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แล้ว 8 ครั้ง ภายในพระบรมมหาราชวัง สำหรับเรา 2 คนได้เป็นจิตอาสาเฉพาะกิจ โดยตนจะทำหน้าที่คอยบริการประชาชน ส่วนยายจะทำดอกไม้จันทน์ เมื่อวาน (31 ต.ค.) ไปเป็นจิตอาสาทำความสะอาดรอบพระเมรุมาศ
“ได้สั่งสอนลูกหลานมาตั้งแต่เล็กเมื่อมีภาพข่าวพระราชกรณียกิจ ให้ทำตามแบบคำสอนของพระองค์ท่าน ทุกวันนี้ตนใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด พยายามทำความดี ทำประโยชน์กับคนอื่นให้มากที่สุด ไม่ฟุ่มเฟือยในการใช้จ่าย แบ่งปันให้คนอื่นตามที่จะให้ได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ตามที่พระองค์ท่านทรงสอนไว้” นายพิเชษฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยประชาชนและวัดทาง พ.ต.อ.ต่อเกียรติ พรหมบุตร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และ พ.ต.ท.วิชิต สินค้า สวป.สน.สำราญราษฎร์ นำสายตรวจมาคอยอำนวยความสะดวกด้วย
