ผบก.พิสูจน์หลักฐาน ยันเอาผิดมือมืดปลอมเอกสารตรวจพยาน คดีฆาตกรรมโจ๋ สน.คันนายาว

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชิน เชื้อแฉ่ง บิดานายสุทธิพงษ์ เชื้อแฉ่ง อายุ 19 ปี ซึ่งถูกคนร้ายทำร้ายเสียชีวิตบริเวณใต้ทางด่วนวัชรพล ย่านบางเขน เหตุเกิดเมื่อกลางปี 2557 พื้นที่รับผิดชอบ สน.คันนายาว ซึ่งต่อมาพบมีการปลอมแปลงใบแจ้งผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ จนมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ วันนี้นำสำเนารายงานการแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง ของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) อีก1 ฉบับซึ่งเป็นการตรวจวัตถุพยานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ มามอบให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานทางกลาง (ผบก.พฐก.) และ พ.ต.อ.นิธิ บัณฑุวงศ์ รองผบก.สฝจ.ในฐานะโฆษก สพฐ.ตร. ตรวจสอบความถูกต้อง หลังพบว่าจำนวนรายการที่ส่งตรวจกับรายงานการตรวจพิสูจน์ไม่ตรงกันโดยส่งตรวจ 16 รายการ แต่ใบรายงานออกมา 19 รายการ จึงเกิดความสงสัยว่าเอกสารที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือไม่

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารล่าสุดเป็นของจริง ตรงตามต้นขั้วของ พฐก. ส่วนประเด็นเรื่องจำนวนวัตถุพยานที่ส่งมาตรวจจำนวน 16 รายการนั้น ในความเป็นจริงวัตถุพยานที่ส่งมาตรวจบางรายการ เช่น ท่อนไม้ 1 รายการ แต่มีจำนวน 3 ชิ้น จึงทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่า จำนวนวัตถุพยานที่ส่งมาตรวจทั้งหมด มีจำนวนไม่ตรงกับเอกสารที่ส่งตรวจ ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายตั้งข้อสังเกต ว่ า เหตุใดไม่มีการส่งวัตถุพยานบางอย่างให้ พฐก.ตรวจพิสูจน์ หรือ ทำไม พฐก.ไม่ลงไปตรวจพิสูจน์วัตถุพยานบางชิ้น ตรงนี้ตนอยากชี้แจงว่าวัตถุพยานทุกชิ้นในที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะเป็นผู้พิจารณา เป็นดุลพินิจและอำนาจตามกฎหมาย ของพนักงานสอบสวน หากเห็นว่าวัตถุพยานใดมีความสำคัญต่อการสอบสวนก็จะส่งมาให้ พฐก.ตรวจสอบ ทาง พฐก.ไม่มีอำนาจในการเรียกตรวจสอบวัตถุพยานได้เอง ซึ่งกรณีนี้พนักงานสอบสวนอาจจะมีเหตุผล ว่า เหตุใดถึงไม่ส่งวัตถุพยานบางชิ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่ในวันที่เกิดเหตุมาตรวจ ต้องมีเหตุผลที่สามารถตอบคำถามคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ อย่างไรก็ตามตนจะตรวจสอบกับรายงานการตรวจที่เกิดเหตุของ พฐก. เพื่อดูว่าคดีนี้มีวัตถุพยานใดบ้างที่ยังไม่ถูกส่งมาตรวจ

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีการปลอมแปลงใบแจ้งผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของผู้ต้องสงสัย ยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่รายงานการตรวจพิสูจน์ และไม่ใช่เอกสารราชการที่ออกโดย พฐก.ส่วนจะมาจากที่ใดนั้น เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนต้องชี้แจงที่มาของเอกสารที่นำไปให้ผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามกรณีนี้เป็นการทำหนังสือที่ใช้ชื่อหน่วยงาน พฐก. จึงถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารราชการ ทำให้ พฐก.เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งทางหน่วยจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน แต่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ บก.น.2 ว่า ใครเป็นผู้กระทำ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหนังสือถึง พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น. 2 เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว

ด้าน นายสุชิน กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวตนได้รับจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี หลังไปติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน ที่สน.คันนายาว ซึ่งได้รับหลังใบแจ้งผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของผู้ต้องสงสัยที่พบมีการปลอมแปลง ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบพบว่าจำนวนรายการส่งตรวจ กับผลการตรวจของ พฐก.ไม่ตรงกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยจึงได้นำสำเนาเอกสารมาตรวจสอบว่าเป็นของเอกสารจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังได้รับฟังคำชี้แจงจาก พล.ต.ต.ธวัชชัย จึงได้รับความกระจ่าง และคลายข้อสงสัย ส่วนเรื่องการตรวจสอบใบแจ้งผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของผู้ต้องสงสัยที่พบมีการปลอมแปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของ บก.น.2 อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนติดใจในคดีนี้ คือ ไม่มีการส่งวัตถุพยานหลายชิ้นให้ พฐก.ตรวจพิสูจน์ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ขณะเดียวกันไม่มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image