เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มี.ค.ที่ชั้น 4 เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ บริษัท ข่าวสด จำกัด ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ จัดงาน “สบายใจไหว้พระดี เสริมบารมีปี 59” ระหว่างวันที่ 16-20 มี.ค.59 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศวันที่ 4 ของการจัดงาน มีพุทธศาสนิกชน และประชาชนหอบลูกจูงหลานเดินทางเข้าร่วมงานกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปต่างๆ กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะโซนลานวัดมีประชาชนร่วมเข้าตรวจดวงชะตา 12 ราศีกับ 10 โหราจารย์ชั้นนำของเมืองไทยกันอย่างคับคั่ง
โซนลานบุญ หนุนชีวิต มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการถวายสังฆทานชุดละ 199 บาท สามารถถวายได้ในเวลา 13.00-17.00น.และร่วมใส่บาตรคลายทุกข์โดยเขียนความทุกข์ลงในบาตรที่เตรียมไว้ให้ในแต่ละด้านความทุกข์ ประกอบด้วย การงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ และมีตู้ไปรษณีย์ส่งบุญ เป็นตู้บริจาคส่งบุญถึงคนที่คณรักและอุทิศให้บิดามารดาผู้มีพระคุณ และเจ้ากรรมนายเวร และมีกิจกรรมร่มโพธิ์ ร่มใจ ร่วมเขียนใบโพธิ์อธิษฐานทองคำ เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูปต่อไป
ส่วนโซนศูนย์รวมแห่งศรัทธา เป็นจุดทำบุญ 199 บาท จะได้ดอกไม้ธูปเทียน 9 ชุด หนังสือสวดมนต์ 1 เล่ม และพระสังกัจจาย์มหาลาภ หรือพระขุนแผนผงเสือใบ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร หรือวัตถุมงคลอื่นๆ 1 องค์
นอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลและหนังสือสวดมนต์แจกภายในงาน อาทิ น้ำพระพุทธมนต์ วัดโสธรวรารามวรวิหาร, หลวงพ่อดวงดี วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, พระผงหลวงพ่อคูณปริสุทโธ วัดบ้านไร่, ขุนแผนผงเสือใบสีว่าน วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร, และทางวัดต่างๆ ได้นำวัตถุมงคลมาจำหน่ายและจัดแสดงไว้ที่บูธต่างๆ อาทิ บูธวัดบวรนิเวศวิหาร นำพระไพรีพินาศมาจัดแสดงและจำหน่าย บูธวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา นำวัตถุมงคลมาจัดแสดงและจำหน่าย คือ หลวงพ่อคูณปริสุทโธ รุ่น 9 สร้างในปี 2556 เหรียญทวีคูณ 8 ทิศ รุ่นสร้างบ้านให้พ่อสร้างปี 2558 เหรียญหลวงพ่อคูณครบรอบ 91 ปี สร้างปี 2557 ผ้ายันต์อวยพรมหามงคล สร้างปี 2558 พระกริ่งเทพวิทยาคมสร้างปี 2554 เหรียญรุ่น 90 ฉลองวิหารเทพสร้างปี 2556 ฯลฯ
ส่วนบูธวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ได้อัญเชิญหลวงพ่อทองคำองค์จำลอง, หลวงปู่ทวด มาจัดแสดง พร้อมทั้งมีประชาชนร่วมทำบุญเขียนชื่อฝากดวงไว้กับหลวงพ่อทองคำจะโชคดีตลอดปี และทำบุญ 100 บาท รับวัตถุมงคลหลวงพ่อทองคำ รุ่นไตรเทพเสริมดวง และสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก ทั้ง 13 กัณฑ์ 20,000 บาท รับหลวงพ่อทองคำปิดทองแท้ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว 1 องค์ ภายในงานมีเพียง 30 องค์เท่านั้น
อีกทั้งมีลานจำหน่ายสินค้าโอทอปดังทั้งของกินของฝากและของล้ำค่าจากทั่วประเทศ อาทิ ผ้าพิมพ์ลายทอง, ผลิตภัณฑ์แปรรูปผ้าขาวม้า, กระเป๋ารองเท้าเครื่องหนังต่างๆ, แหนมเห็ดจากวังน้ำเขียว, ปลาทูต้มเค็ม, พร้อมทั้งสมุนไพรไทยต่างๆ สินค้าและบริการเพื่อสุขภาพ อาทิ สมุนไพรดอกคูณ นวดตอกเส้นโดยมูลนิธิโพธิรังสี ตอกเส้น 2,600 ปี รวมถึงนวัตกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น รองเท้านวดสุขภาพ ผ้าขาวม้าสำหรับนวดเพื่อสุขภาพ สเปรย์ขจัดไรฝุ่น ฯลฯ
ส่วนบรรยากาศบริเวณ “โซนลานธรรม นำปัญญา” จัดเสวนาในหัวข้อต่างๆ โดยเริ่มในเวลา 13.00 น. จัดเสวนาเรื่อง “ตามรอย 5 อริยสงฆ์ ศึกษาชีวิต หลักคิด และหลักธรรม” โดย แทน ท่าพระจันทร์ กล่าวว่า 5 อริยสงฆ์แห่งเมืองไทย ประกอบด้วย หลวงปู่ทวด วัดช้างให้, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต), หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, ครูบาศรีวิชัย และหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งประชาชนมีความศรัทธากับ 5 อริยสงฆ์เป็นจำนวนมาก พระเครื่องเกิดจากความศรัทธาในตัวองค์พระอริยสงฆ์ก่อน เช่น คำเทศน์คำสอนต่างๆ เมื่อศรัทธาแล้วจึงเกิดมีวัตถุมงคลขึ้น คนจึงอยากจะเก็บไว้เพื่อระลึกถึงตัวท่าน จึงกลายเป็นค่านิยม ส่วนในเรื่องความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่ตามมา ปัจจุบันนี้วัตถุมงคลที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องความร่ำรวยเป็นเศรษฐีซึ่งในสมัยก่อนไม่มี สร้างเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นของขวัญเมื่อสร้างวัด
“เมื่อเรามีพระเครื่อง 5 อริยสงฆ์หรือพระเครื่องใดๆ เราควรจะนึกถึงคำสั่งสอนของท่านและจะต้องมีสติปัญญาในการใช้ชีวิต และพระเครื่องต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เวลาเกิดปัญหาหาทางออกไม่ได้ จะต้องนึกถึงองค์หลวงพ่อที่เราใส่และระลึกถึงพระพุทธเจ้าและหลักคำสอน จิตใจจะค่อยๆ สงบและมีสติมากขึ้น ก็จะหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ นั้นได้ และรู้จักอยู่พอเพียง มีสติ เก็บและให้ เหมือนกับหลวงพ่อคูณที่สอนไว้ว่า “ยิ่งอยากได้ยิ่งอด ยิ่งให้ยิ่งมี” แทน ท่าพระจันทร์กล่าว
ถัดมาเวลา 14.00 น.เสวนาในหัวข้อ “อินเทรนด์อินธรรม พุทธศาสนากับดารารุ่นใหม่” โดย เพ็ชร-ฐกฤต ตวันพงค์ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า สาเหตุที่วัยรุ่นห่างเหินจากศาสนา น่าจะเกิดจากเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า อีกทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้วัยรุ่นมองข้ามศาสนาและวันสำคัญทางศาสนา สิ่งที่สำคัญคือจะต้องมีการส่งเสริมศาสนาโดยเริ่มจากตัวเราเอง และครอบครัว รวมถึงปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ
“วัยรุ่นสมัยนี้สามารถทำบุญได้ทุกเพศทุกวัยโดยเริ่มต้นได้จากที่บ้าน เรามีพระพุทธรูปเราก็สวดมนต์ได้ นั่งสมาธิที่บ้านได้ ถ้าเราว่างวันไหนก็สามารถไปร่วมทำบุญที่วัดต่างๆ ใกล้บ้านได้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำนุบำรุงศาสนาให้คงอยู่ได้ต่อไป” เพ็ชร-ฐกฤต กล่าว
ต่อมาเวลา 15.30 น.เสวนาเรื่อง “เปิดกรุวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ” โดย นายวัชรเกียรติ วัฒนภูริพงศ์ (สม ป่าตอง) อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กล่าวว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณเร่ิมในสมัย พ.ศ.2508 ซึ่งออกเป็นรูปถ่ายกระจกเป็นรูปหลวงพ่อคูณครึ่งองค์สีขาวดำกับหลวงพ่อคงซึ่งเป็นอาจารย์หลวงพ่อคูณซึ่งเป็นเอกลักษณ์ แต่ก่อนหน้านั้นท่านจะทำจีวรตะกรุดเส้นเล็กๆ สำหรับผูกมือเด็ก และเป็นทองแดงตะกรุดขนาด 1 เซนติเมตรและคล้องด้วยจีวรท่านที่ใช้แล้ว ท่านจะม้วนจีวรทำตะกรุด ซึ่งในสมัยนั้นจะป้องกันงูกัดและทำให้เด็กเลี้ยงง่าย และกันโรคภัยไข้เจ็บ
“วัตถุมงคลหลวงพ่อคูณในยุคแรกจะเป็นตะกรุดจีวรและรูปถ่ายในปี พ.ศ.2508 ต่อจากนั้นมาก็เป็นตะกรุดโทนทองแดงขนาดประมาณ 3-4 นิ้ว แต่หลังจากนั้นมีคนเอาความศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นมิจฉาชีพเป็นโจรปล้น สุดท้ายท่านจับได้และคณะปฏิวัติสั่งประหารชีวิต ท่านเสียใจมากก็เลยหยุดสร้างวัตถุมงคลหยุดฝังตะกรุด จากนั้นมาหลวงพ่อไม่ให้วัตถุมงคลทุกอย่าง ท่านจะสอนให้ธรรมะเพียงอย่างเดียว” นายวัชรเกียรติกล่าว
นายวัชรเกียรติ กล่าวว่า วัตถุมงคลหลวงพ่อคูณที่มีราคาแพงที่สุดคือ รุ่นบารมี 19 เนื้อทองคำ ซึ่งสร้างไม่เกิน 5 เหรียญ สร้างในปี พ.ศ.2519 สร้างที่วัดโนนไทยโดยมหาสวนซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคูณเป็นคนสร้าง สร้างเนื้อเงิน 199 เหรียญ เนื้อนวโลหะ 999 เหรียญ เนื้อทองแดง 2519 เหรียญ ส่วนเนื้อทองคำนั้น ใครอยากได้เนื้อทองคำก็ไปซื้อและนำมาปั๊มกันเองและให้หลวงพ่อคูณปลุกเสกต่างหาก ซึ่งเหรียญทองคำจะไม่มีโค้ด แต่เป็นเหรียญที่แพงที่สุดในโลก ราคา 10 ล้านบาท ไม่มีใครยอมขาย แพงเพราะว่าเหรียญบารมีปี พ.ศ.2519 มีอายุแค่เพียง 40 ปี เหรียญหลวงพ่อคูณน่าจะจัดเป็นพระที่แพงที่สุดในประเทศไทย
ปิดท้ายเวลา 16.30 น.เสวนาหัวข้อ “มองหาความสุข เมื่อทุกข์มาเยือน” พร้อมทั้งทำกิจกรรม “สวดมนต์ไหว้พระ ชำระจิตใจ” โดยพระมหาวิเชียร อติเมโธ จากวัดหนังราชวรวิหาร กล่าวว่า มองหาความสุข เมื่อทุกข์มาเยือน หมายถึง ในเรื่องของความทุกข์นั้น จะเห็นความสุขและประโยชน์ที่ได้รับจากการมองอยู่ เพราะในความโชคร้ายมักจะมีความโชคดีแฝงอยู่ ถ้าเรามองให้เป็นก็จะเห็นเรื่องของการงาน การเงิน ความรัก และครอบครัว
“คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีความรู้ดี มีความสามารถ มีโอกาส มีผู้สนับสนุน และมีบุญกุศล นอกจากนี้จะต้องรู้จักตนเอง รู้จักควบคุมตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง พอใจในตนเอง และต้องเคารพตนเอง ส่วนกิจกรรมใส่บาตรคลายทุกข์นั้น มีผู้ใส่บาตรในเรื่องการงาน การเงิน และความรัก มากที่สุด สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้คนเป็นทุกข์มากที่สุด ซึ่งคนตกงานขาดเงิน ความรักก็จะมีปัญหากระทบไปทุกอย่าง เพราะฉะนั้นวิธีการใช้เงินคือส่วนหนึ่งใช้จ่ายในการกินกับบุคคลรอบข้าง ส่วนหนึ่งใช้จ่ายในการลงทุนให้ออกดอกออกผล และเก็บไว้ใช้เวลาจำเป็น” พระมหาวิเชียรกล่าว
ส่วนกิจกรรมวันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค. ที่โซนลานธรรม นำปัญญา เริ่มเวลา 12.00 น.เสวนาหัวข้อ “ย้อนกรรมเพื่อทำดี กับปาฏิหาริย์มหัศจรรย์พลังจิต” โดย ดร.(กิตติมศักดิ์) หนุ่ม-ศุภชัย อนุที แชมป์ศึกจ้าวหมอดู ซีซั่น 2 ประเทศไทย, เวลา 13.00 น.เสวนาหัวข้อ “พลังศรัทธาสร้างสุข” โดย ทวี อัมพรมหา (ขาวผ่อง สิทธิชูชัย), เวลา 14.00 น.เสวนาหัวข้อ “เปิดตำนาน 9 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์” โดย ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเวลา 16.30-18.30 น.มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพเคราะห์ เสริมบารมีปี 59 ทำพิธีโดย พระพรหมมังคลาจารย์ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยท่านที่สวดนพเคราะห์นั้นมีค่าพิธีการท่านละ 299 บาท จะได้รับกรวยขันครูและสายรัดข้อมือหลวงพ่อทองคำ หรือร่วมเป็นเจ้าภาพจุดเทียนประจำวันเกิด ท่านละ 3,000 บาท จะได้รับกรวยขันครู สายรัดข้อมือหลวงพ่อทองคำ และธงมหาลาภ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชำระเงินได้ภายในงานหรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 098-280-2792, 083-799-9948
สำหรับพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพเคราะห์ เสริมบารมีปี 59 เป็นการสวดนพเคราะห์ที่เป็นการเจริญพุทธมนต์พิเศษ เพื่อเสริมชะตาราศีที่เวียนในจักรราศีของผู้คนทุกชั้นวรรณะ การสวดนพเคราะห์เป็นการเสริมบารมีเสริมดวงชะตา การสวดนพเคราะห์จะเป็นการเริ่มต้นพบหนทางสร้างสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นการเริ่มต้นที่ดีในเส้นทางที่ดี ทุกคนที่มีความกังวลหรือความปรารถนาอยากให้เป็นสิริมงคลแก่ดวงชะตาและชีวิตของตน การสวดนพเคราะห์จะครอบคลุมดวงชะตาชีวิตของทุกคนอย่างครบถ้วน
