เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสกัดไฟโดยการตีวงโอบล้อมพื้นที่ 1.5 หมื่นไร่ ซึ่งรวมถึงพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน โดยได้ระดมกำลังสนับสนุนจากหน่วยควบคุมไฟป่าพื้นที่ใกล้เคียงให้สลับสับเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เริ่มมีความอ่อนล้า เพราะการเดินป่าเข้าพื้นที่ไปดับไฟต้องใช้เวลานาน 4-5 ชม. พร้อมทั้งมีการใช้เฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำช่วยในการดับไฟป่า ทั้งนี้ กำลังเร่งประเมินความเสียหายที่แท้จริงของพื้นที่ซึ่งคาดว่ามีพื้นที่ป่าอุทยานฯ แก่งกระจาน เสียหาย 1,000-2,000 ไร่ โดยสามารถควบคุมไฟได้แล้ว 80% เหลืออีก 20% ที่ยังเป็นปัญหา ทั้งนี้ จะเร่งสรุปรายงานความคืบหน้าเสนอต่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจรัตน์ รัฐมนตรีทส. ในช่วงเย็นวันที่ 20 มีนาคมนี้
นายธัญญากล่าวอีกว่า สำหรับไฟป่าที่เกิดขึ้นในอุทยานฯแก่งกระจานครั้งนี้ เชื่อว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ 100% โดยเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นป่าไผ่ ไปจนถึงป่าดิบชื้นที่ไม่ใช่พื้นที่เกิดไฟป่า ตนก็แปลกใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร อุทยานฯแก่งกระจานไม่เคยมีไฟป่ามาถึง 20 ปี แต่ก็มาเกิดขึ้นในเวลานี้ ทำให้เกิดความเสียหาย กระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพมหาศาล และอยู่ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเสนอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ที่จะมีการพิจารณาในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งก่อนหน้าได้มีการทำประชาพิจารณ์และรับฟังชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ รวมทั้งปรับปรุงรายงานความหลากหลายทางชีวภาพส่งไปยังคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว และหากคณะกรรมการมรดกโลกมีคำถามมาก็คงต้องมีการชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ กรมอุทยานฯกำลังเร่งประสานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อวางแผนในการจับกุมสืบหาตัวผู้กระทำผิด และแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่จุดไฟเผาป่าแก่งกระจานให้ได้ เพราะอยู่ๆ ไฟป่าก็เกิดขึ้นกลางป่า ซึ่งเป็นเรื่องผิดวิสัย ยืนยันว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังและลาดตระเวนทุกพื้นที่อย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในเรื่องการป้องกันปัญหาไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ ด้วย
