องค์การอนามัยโลกแนะทางเลือกเก็บภาษี “คนรวย” ขยายแหล่งเงินกองทุนสุขภาพ

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานกรรมการจัดทำแนวทางการระดมทรัพยากรเพื่อความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ องค์การอนามัยโลก โดย พญ.มารี พอล คีน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านระบบสุขภาพและนวตกรรม และ นายโจเซฟ กัทซิน ผู้ประสานงานด้านนโยบายการคลังสุขภาพ มีข้อคิดเห็นต่อข้อเสนอการคลังสุขภาพเพื่อความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพ หรือ SAFE ที่จัดทำโดยคณะกรรมการฯ ซึ่งองค์การอนามัยโลกสนับสนุนการมองระบบหลักประกันสุขภาพที่เป็นองค์รวมของทั้งประเทศ ไม่มองแยกส่วนเฉพาะกองทุนใดกองทุนหนึ่ง และในการปฏิรูปก็ควรดำเนินการทั้ง 3 กองทุน คือ กองทุนสวัสดิการข้าราชการ กองทุนประกันสังคม และกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อความยั่งยืนของระบบ

“อย่างแหล่งที่มาของงบประมาณที่รัฐใช้สำหรับงบหลักประกันสุขภาพ ควรพิจารณาขยายฐานงบกองทุนจากการใช้ภาษีเงินได้ของประชาชน มาเป็นการดึงภาษีจากทุกแหล่ง รวมถึงภาษีลงทุน ภาษีคนรวย เป็นต้น ถือเป็นการเพิ่มความหลากหลายของแหล่งทุนที่จะป้อนเข้าสู่งบ ซึ่งฝรั่งเศสและฮังการีได้ใช้มาตรการนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาระดับของงบประมาณในกองทุนให้คงที่ไว้ ไม่ให้ลดลง โดยลดผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ของประชาชน” นพ.สุวิทย์ กล่าว

นพ.สุวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นเพิ่มประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง 3 ระบบหลักของไทยนั้น องค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเด็นสำคัญคือการจ่ายเงินแก่ผู้ให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกการจ่ายที่ไม่ส่งเสริมให้ผู้ให้บริการใช้ยาหรือเทคโนโลยีการแพทย์ที่ไม่สมเหตุผล ซึ่งองค์การอนามัยโลกสนับสนุนการใช้งบประมาณปลายปิด ดังที่กองทุนบัตรทองดำเนินการอยู่ และได้ระบุถึงข้อเสียหากใช้งบประมาณปลายเปิดในระบบหลักประกันสุขภาพว่า จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการคลังของรัฐ และการคุ้มครองประชาชนต่อภาวะล้มละลาย ทั้งยังนำไปสู่การใช้บริการเกินจำเป็นที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image