เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –13 มีนาคม 2559 พบผู้ป่วยทั่วประเทศ 11,615 ราย เสียชีวิต 9 ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 828 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ ระยอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ และภูเก็ต โดยผู้เสียชีวิต 9 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากภาวะช็อก ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตมักมาพบแพทย์หลังจากเริ่มป่วยแล้วล่าช้าไปถึงสัปดาห์ ทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมแต่แรกๆ อย่างไรก็ตาม จากการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าแนวโน้มของโรคไข้เลือดออกอาจจะระบาดได้ในวงกว้างหากประชาชนไม่ตระหนักในการป้องกันโรค ซึ่งพบว่าในช่วงต้นปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว จึงขอแนะนำประชาชนให้ดูแลตนเองและบุตรหลานไม่ให้ถูกยุงลายกัด ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในครัวเรือน ด้วยมาตรการ 3 เก็บ “เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ” ทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อตัดวงจรการระบาด สามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคติดเชื้อไวรัสซิกา
“สิ่งสำคัญต้องป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยนอนในมุ้ง ติดมุ้งลวดป้องกันยุงเข้าบ้าน ทายากันยุง หรือใช้สมุนไพรไล่ยุง และหากมีผู้ป่วยสงสัยไข้เลือดออก เช่น มีไข้สูงลอยเกิน 2 วัน โดยไข้จะสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส เบื่ออาหาร อาเจียน ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ หรือเมื่อกินยาแล้วไข้ไม่ลดลงภายใน 1-2 วัน ถ้ามีอาการใดอาการหนึ่งให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นพ.อำนวย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ยังเปิดแอพพลิเคชั่น “พิชิตลูกน้ำยุงลาย” เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยประชาชนประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคไข้เลือดออก ด้วยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจความชุกชุมของลูกน้ำยุงลายในบ้านตนเอง แบบเข้าใจง่าย มีฟังก์ชันรายงานผู้ป่วยให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่สำรวจ เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด สามารถโหลดแอพฯ พิชิตลูกน้ำยุงลายได้ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และในระบบไอโอเอส
คลิปจากกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)
