ผบ.ตร.ขอโทษ ยอมรับทำคดีเบนซ์ชนบกพร่อง-ล่าช้า ยันให้ความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงการดำเนินคดีที่นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี นักธุรกิจที่ขับรถเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ดจนไฟลุกท่วม ทำให้นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิต 2 รายว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตนเดินทางไปราชการที่ประเทศอินเดีย แต่ก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์จริญ รองผบ.ตร. ติดตามคดีอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นการทำหน้าที่ของตำรวจ และให้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 1 กำชับเรื่องการดำเนินคดีและชี้แจงกับสังคมให้ชัดเจน ในส่วนของตำรวจที่ทำคดีในตอนแรกก็สั่งการให้ช่วยราชการที่ ศปก.ภ. 1 แล้ว 2 นาย

เมื่อถามว่ากระแสสังคม ยังมีความคลางแคลงใจ และตั้งข้อสังเกตุการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับนายเจนภพ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องห่วง แต่ยอมรับว่าคดีนี้ตำรวจทำงานช้าไป ตนได้รับคำตำหนิมาว่าตำรวจทำงานช้า ไม่ทันเหตุการณ์

“ผมยอมรับว่าตำรวจบกพร่องในส่วนนี้ ผมน้อมรับไว้พิจารณา ขอโทษประชาชนด้วย ที่เราทำงานล่าช้าไป แต่อย่างไรก็แล้วแต่เราให้ความเป็นธรรม หากพบหลักฐานใดที่ต้องดำเนินคดี ก็สั่งการให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเจนภพ บางครั้งกระแสสังคม โซเชียลก็พาไป ส่วนหนึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจพยายามทำอย่างเต็มที่ เก็บหลักฐานตรวจสอบ แต่บางครั้งเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็มีข้อจำกัด อย่างไรก็ตามขณะนี้ทุกฝ่ายทำเต็มที่ดำเนินการตามพยานหลักฐาน เราไม่ละเลย ไม่ทอดทิ้งผู้สูญเสีย และไม่ละเลยกับการดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่ ขอให้สังคมช่วยดูด้วย คดีนี้พบว่ามีความบกพร่องเรื่องความรู้ด้านกฎหมาย กระบวนการดำเนินการ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา อาจตอบคำถามไม่ครบ ไม่เคลียร์ จึงสั่งให้ช่วยราชการไปแล้ว” ผบ.ตร.กล่าวว่าปัจจุบันมอบหมายให้ระดับกองบังคับการจังหวัดทำคดีนี้อย่างโปร่งใส เป็นธรรม แสดงให้เห็นว่าตำรวจจริงใจที่จะคลี่คลายคดี  ขอให้เชื่อมั่นว่าตำรวจทำเต็มที่ การมีโซเชียลมีเดีย มีเทคโนโลยีในสมัยนี้ทำให้ตำรวจถูกตรวจสอบได้ง่าย ไม่มีใครกล้าทำไม่มี กล้าทุจริตต่อหน้าที่หรอก เพราะถูกตรวจสอบได้โดยง่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image