เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.10 น.วันที่ 21 มีนาคม พ.ต.ต.กมล คิดอ่าน สารวัตร (สอบสวน)สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งมีเหตุรถทัวร์โดยสารพุ่งเข้าชานชาลามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิ อปพร.เทศบาลนครลำปาง และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง รุดไปตรวจสอบ และช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุ ที่ชานชาลาที่ 4 เจ้าหน้าที่พบรถทัวร์โดยสารสีฟ้าขาว ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ยี่ห้อวอลโว่ ทะเบียน 15-3002 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ ม.4 (ข)/9-1045 สายกรุงเทพฯ-คลองลาน อยู่ในสภาพพุ่งชนขึ้นบนชานชาลา เก้าอี้ผู้โดยสารนั่งรอ และป้ายต่างๆ กระจัดกระจายได้รับความเสียหายไปทั่ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นผู้โดยสารที่กำลังนั่งรอจะขึ้นรถ ถูกรถทัวร์คันดังกล่าวพุ่งชน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้เร่งลำเลียงนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลลำปาง
นายพงษ์เทพ แก้วสนธิ อายุ 49 ปี พนักงานขับรถคันดังกล่าว ให้การว่า ขับรถพาผู้โดยสาร 17 คน มาจาก จ.เชียงใหม่ และกำลังมาจอดรับผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปางอีก 9 คน โดยรถคันดังกล่าวเป็นรถสายคลองลาน-กรุงเทพฯ แต่ได้นำมาวิ่งแทนรถสายเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงชานชาลา ก็ได้ติดเครื่องยนต์ไว้ แล้วลงจากรถไปบันทึกเวลาในสำนักงานใช้เวลาประมาณ 3 นาที พอกลับมาที่รถ และเปิดประตูรถเสร็จได้สักพัก รถทัวร์ซึ่งเป็นเกียร์ออโต้ได้พุ่งไปข้างหน้าทันที
ด้านนายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่าเบื้องต้นพบว่าตัวเสาปูนซึ่งเป็นโครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายมีร่องรอยหัก ซึ่งจะได้ให้นายช่างวิศวกรของเทศบาลนครลำปาง มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ห่วงความปลอดภัยกับประชาชน และรู้สึกเสียใจต่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพนักงานขับรถคันดังกล่าวไปตรวจร่างกาย และตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด รวมถึงตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่พบ และได้มีการสอบสวน เพื่อประกอบคดีขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย โดยที่ผู้บาดเจ็บนั้นได้ทยอยกลับบ้านไปแล้ว 3 ราย เนื่องจากบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีก 1 ราย เป็นชายบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากขาหัก จากรถที่พุ่งชน ยังคงนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งในวันนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง จะได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
