ดีเอสไอ รับ วิชาญ มือประกอบ”รถเบนซ์สมเด็จช่วง” เข้าคุ้มครองพยาน ถูกข่มขู่

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีรถเบนซ์โบราณ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังอยูระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมดมาให้ปากคำกับดีเอสไอ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย. นี้ ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใดบ้าง ตอนนี้พนักงานสอบสวนขอเวลาทำงานสักระยะ หากมีความคืบหน้าจะให้สังคมรับทราบ

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของนายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของอู่วิชาญ ซึ่งเป็นผู้ประกอบรถเบนซ์ของสมเด็จช่วง คณะกรรมการพิจารณา เรื่องการขอคุ้มครองพยานของดีเอสไอได้รับนายวิชาญ เข้ามาอยู่ในการคุ้มครองพยาน เรียบร้อบแล้ว เบื้องต้น จะอยู่ในความดูแลของดีเอสไอ เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมและหลักเกณฑ์​ อย่างไรก็ตามนายวิชาญต้องการแค่เพียงให้เจ้าหน้าที่ไปคุ้มครองเวลาเดินทางไปไหนมาไหน ไม่จำเป็นต้องคุ้มครองแบบ เต็มรูปแบบ ที่ต้องเปลี่ยนชื่อ ที่อยู่ ดังนั้นเรื่องเบี้ยเลี้ยง หรือค่าใช้จ่าย ที่พักของพยาน ดีเอสไอ ไม่ได้รับผิดชอบ จะดำเนินการแค่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ได้ดูแลความปลอดภัยในนายวิชาญ ตามระเบียบ

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวถึงการตรวจสอบรถจดประกอบ จำนวน 7,123 คัน ว่า ได้รับข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ยืนยันตัวเลขรถจดประกอบที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่ปี 2553 -2556 หลังจากนี้หน้าที่ของดีเอสไอต้องส่งข้อมูลหมายเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ไปให้กรมศุลกากร เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวส่งต่อไปตรวจสอบยังแหล่งผู้ผลิตรถในต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image