เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ด้านหน้ากองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( กก.ดส.บช.น. ) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ฐานะศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) พร้อมด้วย พร้อมพ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.ดส. พ.ต.ต.นพรัตน์ บุญถนอม สว.กก.ดส. แถลงผลการทลายแก๊งเยาวชนตระเวนลักรถจักรยานยนต์ชำแหละชิ้นส่วนขาย ได้ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-17 ปี จำนวน 9 คน พร้อมตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาจำนวน 8 คัน เสื้อเชิตแขนสั้นพื้นหลังสีดำมีลวดลายตัวอักษรภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ตัว เสื้อเชิตแขนสั้น พื้นหลังสีดำ มีลวดลายต่างๆ จำนวน 1 ตัว และหมวกกันน๊อคนิรภัยแบบเต็มใบ ยี่ห้ออินเด็ก สีขาวใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ 1 ใบ โดยจับกุมตัวเยาวชนทั้งหมดได้ที่ กก.ดส.บช.น. เมื่อเวลา 05.30 น. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 05.30 น. ขณะที่ตำรวจกก.ดส.บช.น.ปฏิบัติหน้าที่มาถึงบริเวณแฟลต ข้าราชการตำรวจถนอมมิตร แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พบกลุ่มเยาวชนดังกล่าวมีพฤติการณ์ท่าทีพิรุธต้องสงสัย โดยนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ จอดติดเครื่องอยู่จำนวน 3 คัน ซึ่งแต่ละคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและไม่พบกุญแจ ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.ดส.บช.น. จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบซึ่งพบว่ากลุ่มเยาวชนดังกล่าวมีอายุระหว่าง 13-17 ปี จึงได้เชิญตัวกลุ่มเยาวชนดังกล่าวมาที่ กก.ดส.บช.น. จากนั้นได้ทำประวัติและตรวจสอบข้อมูลการครอบครองรถจักรยานยนต์แต่ล่ะคัน ผลการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ทั้งหมดเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้ในพื้นที่สถานีตำรวจต่างๆ ทั้งสภ.คูคต สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ สภ.ลำลูกกา และสน.นิมิตใหม่ จึงได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.น.เพื่อร่วมทำการตรวจสอบขยายผล
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนกลุ่มเยาวชนให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 คัน ในพื้นที่ คูคต ลำลูกกา สายไหม นิมิตใหม่ โดยจะเลือกเหยือที่ไม่ได้ล็อคคอ หรือเสียบกุญแจทิ้งไว้ เมื่อสบโอกาสก็จะช่วยกันถีบรถหลบหนีไป ทั้งนี้ยังให้การรับสารภาพอีกว่าเพิ่งกลับมาจากการลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำส้ม รุ่น คลิกทะเบียน 4กต 2089 กรุงเทพมหานคร ( ของกลาง ) พื้นที่คลอง 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และก่อนหน้านี้ยังได้ร่วมกันออกตะเวนลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ต่างๆอีกจำนวนมาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจยึดรถจักรยานยนต์เพิ่มได้อีก 5 คัน จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาเยาวชนยังให้การอีกว่าเมื่อได้ทำการลักรถจักรยานยนต์ได้แล้วจะนำไปจอดซุกซ่อนไว้ โดยแต่ละคนยังมีการแบ่งหน้าที่กันทำมีดช.เต่า อายุ 14 ปี และด.ช.ที อายุ 13 ปีทำหน้าที่ดูต้นทางและลักรถ ด.ช.ไอซ์ อายุ 14 ปี นายบูท อายุ 16 ปี ด.ช.เซฟ อายุ 14 ปี และนายเฟริส อายุ 15 ปี ทำหน้าที่ลักรถ ซึ่งเมื่อได้จักรยานยนต์มาแล้วจะนำมาจอดซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ เมื่อต้องการแยกชิ้นส่วนก็จะนำมาไว้ที่บ้านพักของด.ช.ภู อายุ 14 ปี ในซอยเก่งกาจ แขวงและเขตสายไหม กทม. เพื่อทำการแยกอะไหล่ โดยมีนายเอฟ อายุ 17 ปี และนายเปา อายุ 16 ปี เป็นผู้ชำแหละแยกอะไหล่ ก่อนนำอะไหล่ที่ได้จากการแยกชิ้นส่วนไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งบางคันหากสภาพดีก็จะมีนายทุนมารับซื้อไป
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อแจ้งผู้ปกครองของเยาวชนแต่ละคนให้มาทราบถึงพฤติการณ์และรายละเอียดในการกระทำผิดพร้อมทั้งทำประวัติเยาวชนแต่ละคนไว้เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ส่วนเยาวชนแต่ละคนเจ้าหน้าที่ให้ผู้ปกครองรับตัวกลับไปพร้อมทั้งให้ลงชื่อในใบตรวจยึด ในส่วนของรถจักรยานยนต์ของกลางได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ทั้งหมดก่อนส่งมอบให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในแต่พื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับผู้ก่อเหตุต่อไป
