ภายหลังจากนิสิตฝึกงานสาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้พบการกระทำที่ส่อทุจริตระหว่างการฝึกปฏิบัติงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น จนได้ร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และมีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงขึ้นมา ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจำนวนไม่น้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยมีเนื้อหาว่าเมื่อนิสิตได้นำเอาเรื่องทุจริตที่พบไปเล่าให้อาจารย์ท่านหนึ่งได้ทราบ ก็ได้นำนิสิตคนดังกล่าวไปไกล่เกลี่ยกับครูภาคสนาม โดยว่าเป็นการเข้าใจผิด รวมทั้งสั่งให้นิสิตกราบขอขมาครูภาคสนามว่าเป็นการเสียเครดิต”
ล่าสุด สภาคณาจารย์ สำนักอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มีการประชุม และได้ทำหนังสือซึ่งมีการประชุมสภาคณาจารย์เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงอธิการบดี เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ และเปิดเผยอย่างเร่งด่วน เนื่องจากกระทบต่อภาพลักษณ์ของอาจารย์และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในกรณีดังต่อไปนี้
1.อาจารย์ของหลักสูตรได้มีการร่วมกันปกปิดการปลอมแปลงเอกสารเบิกเงินซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
2.เหตุใดอาจารย์จึงไม่ให้นิสิตดำเนินการแจ้งความเพื่อการป้องกันนิสิต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนิสิตในภายหลัง หากว่ามีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่กลับนำนิสิตไปไกล่เกลี่ย และมีการบังคับข่มขืนใจให้นิสิตก้มกราบผู้กระทำผิดหรือไม่
3.มีการใช้มือฟาดนิสิตหรือไม่ และหากมี อาจารย์คนดังกล่าวทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่
4.การเรียกนิสิตมาสอบสวนและกระบวนการสอบสวนโดยคณะ ใช้อำนาจถูกต้องหรือไม่ ให้ความเป็นธรรมกับนิสิตหรือไม่ และมีการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือคุกคามนิสิตหรือไม่
5.เหตุใดต้องมีการห้ามแชร์ข่าว และการห้ามนิสิตแชร์ข่าว แต่ปล่อยให้นิสิตบางกลุ่มโพสต์ข้อความในเชิงโจมตีนิสิต เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่ และเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไม่
6.ให้มีกลไกในการคุ้มครองสิทธินิสิตคนดังกล่าว เนื่องจากกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 ขณะที่อาจารย์คู่กรณีเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการทำพัฒนานิพนธ์ ประธานและกรรมการหลักสูตรและเป็นหัวหน้าภาควิชา ที่อาจใช้อำนาจหน้าที่ในการพิจารณาผลการเรียน อีกทั้งป้องกันไม่ให้อาจารย์ใช้อำนาจหน้าที่ละเมิดสิทธินิสิตคนดังกล่าว
ทั้งนี้ หากมีผลประการใดให้แจ้งมายังสภาคณาจารย์โดยเร็ว
