เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เพื่อพระราชทานความสุขให้กับประชาชน และเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 11 มีนาคม ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า โดยรายได้จากการจัดงาน ไม่หักค่าใช้จ่าย จะทรงนำไปใช้ในการพระราชกุศล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยและเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ ภายใต้กิจกรรมในโครงการพระราชดำริ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ” ต่อไป
ทั้งนี้ กองอำนวยการร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว (กอร.) ได้สรุปยอดรวมผู้มาร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว วันที่ 10 มีนาคม จำนวน 107,170 คน ประกอบด้วย คนไทย 106,087 คน ชาวต่างชาติ 1,083 คน ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 10 มีนาคม รวม 31 วัน จำนวน 1,145,530 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนที่มาร่วมงานเป็นวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันที่ 32 ว่า ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างจูงมือครอบครัว ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย มาร่วมงานจำนวนมากจนแน่นขนัดไปทั่วบริเวณงาน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้าชมงานอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการถ่ายภาพตั้งแต่ป้ายงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณทางเข้างาน รวมทั้งเรือสุพรรณหงส์จำลองที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางพระลานพระราชวังดุสิต รวมทั้งสวนดอกไม้นานาชนิดหลากสีสันเพื่อนำเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจเข้าชมนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพัฒนาประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา การไปรษณีย์ไทย และธนาคารสยามกัมมาจล ธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารจำลองสถาปัตยกรรมแบบโบราณในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ริมกำแพงสวนอัมพร รวมทั้งนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งจัดแสดงอยู่ริมกำแพงสนามเสือป่า โดยภายในจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ก่อนขึ้นครองราชย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำขนมไทยแบบโบราณที่หาชมได้ยาก ของโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) และการแกะสลัก การทำเครื่องเงิน ของโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (ชาย) อีกด้วย
ภายในสนามเสือป่า มีประชาชนยังให้ความสนใจเข้าหาซื้ออาหารไทยโบราณที่บริษัทต่างๆ นำมาเปิดร้าน รวมทั้งร้านค้าของพระบรมวงศานุวงศ์ จนแน่นขนัดไปทุกร้าน และในส่วนของร้านสอยกัลปพฤกษ์ ต้นโพธิ์เงิน-โพธิ์ทอง มีประชาชนให้ความสนใจร่วมสนุกเป็นจำนวนมาก โดยสลากงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ได้จำหน่ายหมดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม โดยรายได้นำขึ้นทูลเกล้าฯโดยเสด็จพระราชกุศลต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ร้านจิตอาสา 904 ร้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งตั้งอยู่ในสนามเสือป่า และร้านจิตอาสา 904 สาขา 2 ด้านข้างอาคาร 606 มีประชาชนนับร้อยรายต่างพากันมาเข้าคิวเช่าชุดไทยโบราณ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของงาน เนื่องจากมีประชาชนเข้ามาเช่าชุดจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องเปิดโรงละครสนามเสือป่า ให้ประชาชนเข้าไปนั่งคอยคิวอีกด้วย
สำหรับความรู้สึกของประชาชนที่มาร่วมงาน นางสาวชลรชา วรภรตรีเพชร อายุ 33 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว เดินทางมากับครอบครัวจาก จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตั้งใจมาร่วมงานครั้งนี้ และมาเป็นครั้งแรก โดยชุดที่แต่งมาเป็นชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้สั่งตัดขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รู้สึกมีความสุขมากที่ได้มาร่วมงาน เพราะนอกจากได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยแล้ว ยังได้รับอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งกำลังจะเลือนหายไปให้กลับฟื้นคืนมาอีก และอยากให้จัดงานแบบนี้อีกเป็นประจำทุกปี เพื่อให้คนไทยได้ร่วมแต่งกายชุดไทยและสืบสานอัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่ไปอีกนานเท่านาน
นายภัทรพงศ์ วงศ์สุวัฒน์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่เศรษฐกร 7 การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งใจมาเที่ยวชมงานนี้โดยเฉพาะ เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นคนไทยที่เข้าชมงานพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคมากมายเท่ากับงานนี้ แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชาติไทย ถือเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ อีกทั้งยังได้รับความรู้จากนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงในงานแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และประเทศชาติมีความร่มเย็นเป็นสุขมาจนถึงทุกวันนี้
