เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 11 มีนาคม ที่พระลานพระราชวังดุสิต นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ เดินทางมาเที่ยวชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว พร้อมครอบครัว โดยก่อนเที่ยวชมงานได้ในสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนกรณีคดีหวย 30 ล้าน ท่ามกลางประชาชนที่ขอถ่ายรูปด้วย พร้อมทั้งให้กำลังใจว่า หมวดจรูญสู้ๆ
นายษิทรา กล่าวว่า ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และครูปรีชา ใคร่ครวญ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาสนับนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเข้ามาอีก เพราะจากการกระทำความผิดมีหลายกรรม เรื่องนี้เป็นขบวนการ หากไม่เป็นขบวนการไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ขณะที่ผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี มองว่ามีนายตำรวจระดับสูงอยู่ร่วมขบวนการที่จะฉกสลากกินแบ่งจากลุงจรูญและยัดข้อกล่าวหา แล้วเอาเงินของคุณลุงไป ซึ่งตนได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่ามีนายตำรวจระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ แถลงข่าวเหมือนกับว่า ผู้การจัดหวัดกาญจนบุรีไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ตนคิดว่า พล.ต.ท.ฐิติราชต้องการจะสื่อว่า ไม่มีเจตนาทุจริตในตอนแรก แต่มาตอนหลังมันมีความผิดเพราะว่าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร ซึ่งเป็นความผิดอาญา มาตรา 157 ทั้งนี้ ที่ว่าทำเป็นขบวนการ เพราะว่าน่าจะมีการคิดวางแผนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนว่าจะทำอะไรอย่างไร เติมสำนวนให้สมบูรณ์แบบหรือแก้ไขสำนวนลงวันที่ย้อนหลัง เพราะตอนนี้ข้อเท็จจริงก็ได้ปรากฏออกมาแล้วว่ามีเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากจะเตือนอะไรพยานคู่กรณีหรือไม่ นายษิทรากล่าวว่า ตอนนี้หมดเวลาเตือนแล้ว เพราะผู้บัญชาการสอบสวนกลางได้เตือนมานานแล้ว ในเมื่อไม่ยอมรับสารภาพ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีทุกคน ซึ่งตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เรียกลุงจรูญเข้าไปสอบปากคำ แต่หากตำรวจเรียกเมื่อไหร่เราก็พร้อมที่จะให้ปากคำ เรื่องนี้ ทางฝ่ายครูปรีชาได้แจ้งความว่ามีการลักทรัพย์ พอสอบไปเป็นการยักยอก แต่ไม่แน่ใจว่ายักยอกหรือเปล่า ก็กลายเป็นรับของโจร ซึ่งตอนนี้มี 3 ข้อหา แต่หากตำรวจมีความเห็นว่า เรื่องของหมวดจรูญไม่มีความผิด ก็จะทำเรื่องสั่งไม่ฟ้องไปให้อัยการ ให้อัยการเห็นตาม เรื่องของหมวดจรูญก็จะจบลง ส่วนเงินรางวัลที่ถูกอายัดอยู่จะดำเนินการอย่างไรนั้น ได้คุยกับหมวดจรูญแล้วว่าทางเราจะยังไม่ถอนอายัด เพราะว่าจะเป็นเรื่องการได้เปลี่ยนเสียเปรียบทางคดี
ด้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล กล่าวว่า รู้สึกสบายใจตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ที่กองปราบและตำรวจสอบสวนกลางได้แถลงข่าวครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แม้ว่าจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ส่วนที่เหลือนั้น ขออยู่เฉยๆ ดีกว่า เป็นลุงเฉย และจะเก็บไว้ในใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ติดใจการทำหน้าที่ของผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรีหรือไม่ ร.ต.ท.จรูญ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ขออยู่เป็นลุงเฉยดีกว่า
