มิติใหม่นครบาลตั้ง’ผกก.หญิง คุมโรงพัก

มิติใหม่นครบาลตั้ง’ผกก.หญิง’คุมโรงพัก

เรียกเสียงฮือฮาในแวดวงสีกากีไม่น้อย เมื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พรชัย ไทยแท้ ผู้บังคับการอำนวยการ (ผบก.อก.) บช.น. ตรวจสอบกำลังพลตำรวจหญิงยศ พ.ต.อ. เทียบเท่าผู้กำกับการ (ผกก.) ในสังกัด บช.น. เพื่อสอบถามความสมัครใจ แสดงวิสัยทัศน์คัดเลือก แต่งตั้งผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจในสังกัด บช.น. ในวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงสารวัตร (สว.) ประจำปี 2558

จัดเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสีกากี เพราะอดีตที่ผ่านยังไม่เคยมีข้าราชการตำรวจหญิงดำรงตำแหน่ง ผกก.หัวหน้าสถานีทั้งในนครบาลและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.)

ครั้นสำรวจรายชื่อ พ.ต.อ.หญิง ในนครบาลมีคุณสมบัติสามารถได้รับการเสนอชื่อพิจารณาเป็น ผกก.3 นาย คือ พ.ต.อ.หญิง ฉัตรแก้ว วรรณฉวี ผกก.(สอบสวน) สน.มักกะสัน พ.ต.อ.หญิง ดรุณี ทัศนา ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน และ พ.ต.อ.หญิง ปวีณา เอกฉัตร ผกก.(สอบสวน) สน.สมเด็จเจ้าพระยา

Advertisement

พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยถึงแนวคิดที่ตั้งตำรวจหญิงเป็นหัวหน้าโรงพักว่า ผู้หญิงสมัยนี้มีความรู้ความสามารถสูง ถ้ามองไปถึงในอดีต มีนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นผู้นำประเทศอย่างเยอรมนี ในประเทศเราก็มี ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีแล้ว สิทธิสตรีต้องเท่าเทียมกัน และมีกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญในทุกฉบับ ประกอบกับมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 7/2559 ยกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการและตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นลักษณะตำแหน่งเฉพาะทางให้มาเป็นตำแหน่งหลัก

“เมื่อพนักงานสอบสวนเดิมอยู่ในกรง พอเปิดกรงออกมาแล้ว สามารถไปดำรงตำแหน่งทุกตำแหน่ง จึงเห็นควรให้โอกาส เปลี่ยนจากพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิระดับ ผกก.ดูแลงานสอบสวน ลงไปบริหารงานสถานีตำรวจ เป็น ผกก.ดูแลสถานีตำรวจ ไม่ใช่คิดแล้วเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียว แต่คิดเพราะอยากให้สิทธิสตรีเท่าเทียม เพราะผู้หญิงเก่งที่ทำงานตำรวจมีค่อนข้างเยอะ จึงหารือกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องว่ามีความเห็นอย่างไร ทุกคนเห็นด้วยหมด” พล.ต.ท.ศานิตย์บอก

พล.ต.ท.ศานิตย์ยังบอกอีกว่า ขณะนี้มี 3 คน ที่มีคุณสมบัติพร้อม ให้ซักถามว่าสมัครใจหรือไม่ ไม่ใช่ไปบังคับให้ไปเป็นหัวหน้าสถานี ลำบากแล้วมาโทษเรา เบื้องต้นปรากฏว่า พ.ต.อ.หญิงทั้ง 3 คน สมัครใจและทำเอกสารประวัติการทำงานส่งมาให้พิจารณาแล้ว

Advertisement

“เบื้องต้นอาจให้ไปดำรงตำแหน่งในพื้นที่โรงพักขนาดเล็กก่อน เพื่อไม่ให้ลำบากมาก พร้อมหารือกับผู้เกี่ยวข้องถึงการปฏิบัติหน้าที่ถวายการรักษาความปลอดภัย พบว่าไม่มีปัญหาขัดข้องแต่อย่างใด เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันแล้ว จะให้โอกาสได้พิจารณาแต่งตั้ง เลือกรอง สว. รอง ผกก. มีทีมงานให้ไปทำงานร่วมกัน เพื่อจะได้สบายใจที่มีคนไว้ใจไปทำงานร่วมกัน

เชื่อว่าจะทำงานเป็นหัวหน้าสถานีได้ดี และเป็นการยกย่องผู้หญิงตามนโยบายของรัฐบาล ทั่วโลกยกย่องให้ความเสมอภาคกัน” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นอาจคัดเลือกเพียง 1 คน และให้มาแสดงวิสัยทัศน์เร็วๆ นี้ เพื่อดูว่ามีความพร้อมแค่ไหน เมื่อพิจารณาคัดเลือกอย่างจริงจังแล้ว อาจพิจารณาแต่งตั้งมากกว่า 1 คน ก็เป็นไปได้ ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด เพราะผู้ได้รับการพิจารณาไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เพียงแต่หมุนเวียนในระดับเดิม

อย่างไรก็ตาม แต่เดิมพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นตำแหน่งเฉพาะทาง เมื่อลงจากตำแหน่งจะไม่มีใครไปทดแทนได้ ตำแหน่งพนักงานสอบสวนจะรับการเลื่อนไหล โดยประเมินจากผลการปฏิบัติงานสอบสวน สอบข้อเขียน โอกาสที่จะแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีค่อนข้างยาก

แต่เมื่อมีประกาศ คสช.ฉบับที่ 7/2559 ออกมา ทำให้ตำแหน่งพนักงานสอบสวนเป็นตำแหน่งหลัก ถ้าพ้นจากตำแหน่งมาก็ไม่เสียตำแหน่งเลย ถือเป็นการให้เกียรติผู้หญิงแสดงความสามารถ

“ผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกไปอยู่โรงพักอาจเป็นพื้นที่ทางน้ำเยอะหน่อย พื้นที่บนบกบ้าง เพราะถ้าเอาไปรับผิดชอบงานหนักสมบุกสมบันเลย จะกล่าวหาได้ว่าผมเอาสุภาพสตรีลงพื้นที่ทำงานสมบุกสมบันเกินไป เอาพื้นที่เลือกให้เป็นพื้นที่มีปริมาณงานไม่มาก ถามความต้องการของท่านที่รับการคัดเลือกอยากไปตรงไหน ถ้าท่านรับการคัดเลือกแล้ว พิจารณาแล้ว เหมาะสมแล้ว สมัครใจแล้ว ท่านอยากอยู่พื้นที่แถวไหนได้บ้าง โรงพักระดับกลางได้หรือไม่ จะหนักไปหรือไม่ บางทีต้องชั่งน้ำหนักทุกอย่างก่อนพิจารณา” รรท.ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ พ.ต.อ.หญิง ฉัตรแก้ว แคนดิเดตหัวหน้าโรงพัก ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาเป็นเพียง ผกก.ในสายงานสอบสวนเท่านั้น การปรับบทบาทพนักงานสอบสวนให้สามารถดำรงตำแหน่งระดับ ผกก. มาดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่ง พ.ต.อ.ที่เป็นหัวหน้าสถานี ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่งที่ได้รับ จะมีปัญหาในการทำงานหรือไม่นั้น คาดว่าคงไม่มีปัญหาและสามารถควบคุมบริหารงานบนโรงพักได้ เนื่องจากทำงานในสายตำรวจมากว่า 20 ปีแล้ว อาจมีบางส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่อยากให้วัดจากความรู้ความสามารถในการทำงานมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทาง บช.น.สั่งเขียนรายงานวิสัยทัศน์ที่มีต่อการทำงานอีกด้วย

พ.ต.อ.หญิง ปวีณา ซึ่งมีโอกาสนั่งหัวหน้าโรงพักให้ความเห็นว่า รู้สึกขอบคุณ พล.ต.ท.ศานิตย์ ที่เปิดโอกาสให้และไม่ปิดกั้นเพศ มองเห็นความสามารถ เชื่อว่าการปรับโครงสร้าง ไม่มีปัญหาเนื่องจากทำงานสอบสวนมา 17 ปี จนเป็นที่ยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชา เชื่อว่าการเลื่อนเป็น ผกก.หัวหน้าสถานีนั้น จะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์มาควบคุมบริหารงานบนสถานี เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งผู้บริหาร ทำหน้าที่บริหารงานฝ่ายต่างๆ ในสถานี ถ้าได้รับเลือกก็สามารถทำได้

นับเป็นมิติใหม่ในการเปิดโอกาสให้ พ.ต.อ.หญิงมานั่งเก้าอี้หลัก ทำหน้าที่บริหารงานสถานีตำรวจ ที่ต้องดูแลทั้งฝ่ายปราบปราม สืบสวน สอบสวน และธุรการ

และหากได้รับเลือก คงต้องพิสูจน์กันที่ฝีมือ!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image