หลังจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ขีดเส้นตายห้ามผู้ค้าปากคลองตลาดตั้งวางแผงค้าดอกไม้บนทางเท้าถนนจักรเพชรในช่วงเวลากลางวันอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 1 เมษายน ยังคงมีผู้ค้าตั้งวางแผงขายดอกไม้บนทางเท้าถนนจักรเพชรตามปกติ โดยส่วนใหญ่ยังคงขายดอกไม้ ไม่มีการย้ายออกจาพื้นที่ และพร้อมกับสวมใส่เสื้อสีดำพิมพ์ “ร่วมคัดค้านการยกเลิกแผงค้าปากคลองตลาด” ขณะที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปซื้อหาดอกไม้และเก็บภาพเป็นที่ระลึกตามปกติ ท้าทายมเจ้าหน้าที่เทศกิจจากเขตพระนคร เขตภาษีเจริญ และเขตจอมทอง ที่สนธิกำลังร่วมกับทหาร ตำรวจ ตั้งกองอำนวยการดูแลความเรียบร้อยบริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงเข้าไปแจ้งระเบียบให้ผู้ค้าทราบเท่านั้น ยังไม่มีการยึดแผง จับปรับ หรือเกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เนื่องจากต้องรอนโยบายจากผู้บริหาร กทม.อีกครั้ง ทั้งนี้พบว่า มีผู้ค้าส่วนหนึ่งได้ย้ายออกไปค้าขายในพื้นที่ใกล้เคียง คือ ตลาดส่งเสริมการเกษตร ตลาดยอดพิมาน และตลาดปากคลองตรีเพชร หรือ ตลาดดอกไม้ข้างวัดเลียบ
นางนิตยา เหลืองหิรัญ ผู้ค้าดอกไม้ปากคลองตลาด ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ค้าทั้งหมดยอมรับว่าทำผิด และพร้อมย้ายออกจากพื้นที่ แต่สถานที่ที่ กทม.เตรียมไว้ให้ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ค้า มีให้แค่หลักร้อยและมีคนจองเต็มหมดตั้งแต่วันแรก แต่ผู้ค้าในปากคลองมีมากถึงกว่า 2,000 ราย ที่สำคัญสถานที่อย่างตลาดข้างวัดเลียบ หรือยอดพิมาน ไม่ค่อยมีคนไปเดิน อาจทำให้ดอกไม้ที่สั่งมาขายเน่าเสียได้ จึงต้องการให้ทาง กทม.เห็นใจผู้ค้าเวลากลางวัน ในการให้เวลาหาที่ขายเหมือนผู้ค้ากลางคืนที่ให้ขายเพิ่มอีก 3 เดือน คือไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ที่สำคัญปากคลองตลาดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต่างชาติมาเดินจำนวนมาก จึงอยากให้หันมาพัฒนาร่วมกับผู้ค้าแทนที่จะไล่ออกไปจากพื้นที่
ทางด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัด กทม.กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้วว่ายังคงมีผู้ค้าขายตามปกติ โดยยืนยันนโยบายเดิมคือจะไม่ให้มีผู้ค้าบนทางเท้าปากคลองตลาด ดังนั้น หลังจากนี้ กทม.จะต้องใช้วิธีการเจรจา ไม่มีการใช้กำลัง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการปะทะระหว่างผู้ค้ากับเจ้าหน้าที่ โดยเรื่องนี้จะต้องดำเนินการกับผู้ค้าช่วงกลางวันให้เสร็จภายในวัน 4 เมษายนนี้
