รู้ผลสอบ ‘ปลัดพม.’ ทุจริตเงินคนจนวีคหน้า เตรียมคิกออฟจ่ายระบบอีเพลเม้นต์ 1 พ.ค.

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบวินัยร้ายแรง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดพม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดพม. กรณีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งมีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา เป็นประธาน นัดจะเข้ามารายงานความคืบหน้าอย่างไม่เป็นทางการในวันสองวันนี้ ซึ่งเป็นการรายงานระหว่างทางที่ยังสอบไม่เสร็จ เพราะรายละเอียดเยอะ ใจเย็นๆ ครบ 30 วันก่อนแล้วค่อยว่ากัน

พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป พม.จะเริ่มคิกออฟจ่ายเงินสงเคราะห์ผ่านรูปแบบการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารผู้รับบริการ หรือระบบอีเพลเมนต์ให้มากที่สุด แต่ก็อาจคงการจ่ายรูปแบบเงินสดบ้างบางกรณีฉุกเฉิน ซึ่งก็จะมีการจัดทำหลักเกณฑ์ชัดเจน เพื่อสร้างความโปร่งใสต่างๆ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการพิจารณาในรูปคณะกรรมการ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดคอยกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่งในการตรวจสอบซ้ำ หรือพิจารณาก่อนดำเนินการ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นการร่วมคิดร่วมทำของคนในกระทรวง ของผู้ปฏิบัติที่อยากทำให้โปร่งใส แต่ในทางกลับกันก็มีจุดอ่อนการทำให้โปร่งใสคือ ทำให้กระบวนการล่าช้า ยุ่งยากต่อประชาชนที่ได้รับการสงเคราะห์ ซึ่งจะต้องมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้รวดเร็วขึ้น ประชาชนต้องเข้าใจ ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ในวันที่ 30 เมษายน พม.จะแถลงข่าวชี้แจง พร้อมรายงานสถานการณ์ทางสังคมไตรมาส 1

ถามถึงการดึงผู้ว่าราชการมาร่วมพิจารณานั้น พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า จริงๆเราไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ เพียงแต่ต้องมีการป้องปราม โดยการช่วยเหลือเคส พม.ยังรับผิดชอบเหมือนเดิม ส่วนผู้ว่าราชการจะมาช่วยกรองอีกชั้นหนึ่ง คือมาซักถาม สุ่มดูว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ต้องรับผิดชอบ 100 เปอร์เซ็นต์ และตรงนี้ไม่ได้มีเพียงผู้ว่าฯคนเดียว ยังมีคณะกรรมการระดับจังหวัด ช่วยกันซักถาม เมื่อผ่านระดับผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง นิคมสร้างตนเองก็รับไปดำเนินการต่อเหมือนเดิม

ด้าน นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ลงนามโยกย้ายและตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับ 20 ระดับหัวหน้าหน่วยที่ ป.ป.ท.ชี้มูลมา เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนที่ฝ่ายเลขากับฝ่ายกฎหมายของพส.กำลังพิจารณาอยู่ว่า ว่า 20 รายเป็นใคร จากที่ไหน และมีมูลความผิดอย่างไรบ้าง เพื่อให้ดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด ส่วนที่หลายคนอาจมองว่า พส.ดำเนินการล่าช้า ก็อยากเข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาบ้าง เพราะมีขั้นตอนของมันและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ผู้ถูกกล่าวหาก็มีความรู้สึกของเขาเมื่อถูกตั้งสอบ แต่อย่างไรก็ตาม พส.จะพยายามทำให้เร็วที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image