เมื่อวันที่ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ภายในกระทรวงแรงงานกำลังเกิดปัญหา เนื่องจากกลุ่มข้าราชการร้องเรียนและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูว่าคณะผู้บริหารมีการแต่งตั้งนักบริหารระดับต้นอย่างไม่เป็นธรรม โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่กระทรวงแรงงานประกาศรับสมัครข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหารระดับต้นที่ว่างในตำแหน่งรองอธิบดี จำนวน 6 ตำแหน่ง รวม 4 กรม และผู้ช่วยปลัดกระทรวง จำนวน 1 ตำแหน่ง และการสอบคัดเลือกได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 28 -29 มีนาคม แต่มีกระแสข่าวว่าในจำนวนตำแหน่งที่ว่างนั้น มีการวางตัวบุคคลกันเรียบร้อยแล้วและไม่เกินกลางเดือนเมษายนนี้จะมีการประกาศผล โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีนางเพ็ชรา ถาวระ ผู้ตรวจราชการกรม เป็นตัวเต็ง กรมการจัดหางาน (กกจ.) มีนายสุพจน์ เอี่ยมมงคงสกุล นายศักดิ์สกล จินดาสวัสดิ์ และนายวิวัฒน์ จิระพันธุ์วานิช ผู้ตรวจราชการกรม อยู่ในข่ายที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือก ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) คาดว่านางอัจฉรา แก้วกำชัยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนามาตรฐานและทดสอบฝีมือแรงงาน และนายเสถียร พจโพธิ์ศรี ผู้ตรวจราชการกรม จะได้รับการคัดเลือก ด้านกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) คาดว่าจะเป็นนายสุวิทยา จันทวงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม ขณะที่สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน มีนางกัญจนา กลิ่นทอง แรงงานจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในกองทัพเป็นตัวเต็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดการสอบคัดเลือกดังกล่าวได้เกิดปัญหาวุ่นวายขึ้น และอาจส่งผลให้การประกาศผลแต่งตั้งต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากข้าราชการระดับ 9 ของกระทรวงแรงงาน 2 คนคือ นางเพชรรัตน์ นรเดชานนท์ ผู้ตรวจราชการ สปส. และนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีงานทำ กกจ.ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญฯ กระทรวงแรงงาน ตัดชื่อออกจากบัญชีผู้มีสิทธิสอบคัดเลือก โดยให้เหตุผลว่าทั้ง 2 คน ขาดคุณสมบัติเนื่องจากดำรงตำแหน่งอำนวยการไม่ถึง 2 ปี และ ก.พ.ได้รับเรื่องไว้พร้อมกับมีหนังสือสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นไปยัง นายสุรเดช วลีอิทธิกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง และชี้แจงเหตุผลที่ตัดสิทธิข้าราชการทั้ง 2 คน
นายสุชาติกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องนี้ไม่อยากพูด เพราะไม่อยากให้ผู้บังคับบัญชาตำหนิ ส่วนเหตุผลที่คณะกรรมการฯ ระบุว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งอำนวยการไม่ถึง 2 ปีนั้น ล่าสุด ก.พ.ได้ตอบยืนยันแล้วว่าให้ดูคุณสมบัติย้อนหลังไปถึงปี 2550 ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้ขาดคุณสมบัติในข้อนี้แน่นอน
