คนไทยติดเค็ม”โรคไต”พุ่งปรี๊ด กรมควบคุมโรค เตรียมเสนอ “ยุทธศาสตร์คุมเกลือ”

ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายบริโภคเค็ม และอาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวรามาธิบดีกับการผลักดันวาระชาติ:เรื่องการลดบริโภคเกลือและโซเดียม ว่า จากการศึกษาของกรมอนามัย พบว่า คนไทยบริโภคเค็มมากกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดถึง 2 เท่า ส่งผลให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังพบด้วยว่าในแต่ละปีมีอัตราผู้ป่วยโรคไตเพิ่มขึ้น 15% นอกจากนี้ในส่วนของโรงพยาบาลรามาฯก็ยังพบด้วยว่า มีผู้ป่วยไตวายเฉียบพลันอายุน้อยลง ทั้งนี้โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยต้องเริ่มตั้งแต่การลดการบริโภคเค็ม

“อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สำหรับเพศหญิงที่นิยมรับประทานส้มตำอยากให้ฝึกการสั่งให้ติดปาก ว่าเค็มน้อยไม่ใส่ผงชูรส และเวลารับประทานก็ไม่ควรรับประทานน้ำส้มตำ ควรรับประทานแต่เส้นเพื่อหลีกเลี่ยงการรับโซเดียมที่อยู่ในน้ำส้มตำ โดยในส่วนของโรงพยาบาลเองนั้นขณะนี้ก็มีการส่งเสริมให้ลดการบริโภคเค็ม ทั้งยังพร้อมที่จะเป็นโรงพยาบาลต้นแบบลดเค็มอีกด้วย”ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าว

ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า การบริโภคเกลือและโซเดียม ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งพบว่าในโรงพยาบาลสังกัดสธ.มีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในการดำเนินการและประสานงานการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อควบคุมการบริโภคเกลือและโซเดียมในทุกระดับ นอกจากนี้ในส่วนของการควบคุมปริมาณเกลือและโซเดียมในภาคอุตสาหกรรมอาหารนั้น ขณะนี้สธ.กำลังเร่งผลักดันกฎหมายที่จะมีการระบุถึงปริมาณเกลือและโซเดียมที่สามารถใส่ในอาหารสำเร็จรูปต่างๆได้ ทั้ง ขนมกรุบกรอบ อาหารกระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่จะต้องมีการควบคุมที่ชัดเจนว่าในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆจะสามารถใส่เกลือและโซเดียมได้ในปริมาณที่ต่ำกว่า 20 % ทั้งนี้คาดว่ากฏหมายนี้จะสามารถผลักดันได้ภายใน 2-3 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image