เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.สุพิชฌาย์ ธนอัจฉรานันท์ อายุ 39 ปี อาชีพนักธุรกิจ ชาว จ.นนทบุรี พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริจาคเงินช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วย กว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.นเรศ บุญดำเนินพานิช รอง สารวัตร (สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อขอให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีที่ น.ส.ประทุมศีรี ธรรมรัตน์ ได้ลงประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก เปิดรับเงินบริจาคช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย โดยอ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาสุนัขเหล่านี้ แต่ภายหลังมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.ประทุมศีรี กลับพบข้อพิรุธเกี่ยวกับการพาสุนัขไปรักษา หรือการเบิกเงินไปใช้จ่ายต่างๆ เนื่องจากไม่มีการแจกแจงรายรับ-รายจ่าย จึงเกรงว่าเงินบริจาคจะถูกใช้โดยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค
น.ส.สุพิชฌาย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับ น.ส.ประทุมศีรี จากกลุ่มเพื่อนที่มีใจรักและเมตตาต่อสุนัขและแมวจรจัด โดยทราบว่า น.ส.ประทุมศีรี มีจิตอาสา คอยรับหน้าที่ช่วยเหลือนำสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ไปส่งสถานพยาบาล เมื่อมีการเปิดรับเงินบริจาคเพื่อการนี้ ตนจึงยินดีโอนเงินไปให้โดยมีการแจ้งว่าค่าใช้จ่ายสำหรับนำสุนัข 1 ตัว ส่งไปรักษาที่สถานพยาบาล นั้น อยู่ที่ 15,000-20,000 บาท หากสุนัขตัวไหนที่ป่วยหนัก ทาง น.ส.ประทุมศีรี ก็จะแจ้งว่า สัตวแพทย์ที่ทำการรักษา วินิจฉัยโรคแล้วอาจต้องรักษาต่อด้วยการผ่าตัด หรือใช้ยาบางชนิดกับน้องหมา ก็จะขอรับเงินบริจาคเพิ่มเติมอีก ซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า น.ส.ประทุมศีรี ได้ดูแลสุนัข 6-7 ตัว มีผู้บริจาคเงินช่วยเหลือ 200-300 คน แต่กลับมาทราบภายหลังว่า น.ส.ประทุมศิรี ไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษาสุนัขให้ดีตามสมควร มีการปล่อยให้สุนัขนอนแช่อุจจาระหรือปัสสาวะ หรือบางตัวที่ส่งไปรักษาแล้วเสียชีวิตก็ไม่ได้ติดตามผล จนผู้ที่บริจาคเงินให้ ยังไม่ทราบเรื่องก่อนด้วยซ้ำ ว่าสุนัขเสียชีวิตแล้ว และน.ส.ประทุมศีรี ก็ยังประกาศขอรับเงินบริจาคทั้งที่สุนัขตัวนั้นตายไปแล้ว
น.ส.สุพิชฌาย์ กล่าวต่อว่า เมื่อพวกตนทราบเรื่อง จึงพยายามติดต่อกับ น.ส.ประทุมศีรี ขอให้แจกแจงค่าใช้จ่ายต่างๆ กับเงินบริจาคที่ได้รับไป โดยคาดว่าน่าจะมีผู้ใจบุญบริจาคเงินให้แล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ นอกจากนี้ยังพบข้อพิรุธที่น่าสงสัย เนื่องจาก น.ส.ประทุมศีรี ได้นำเงินไปซื้อสิ่งของ หรือใช้ทำอะไรอย่างอื่นที่ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอให้มีการสอบสวนกรณีดังกล่าวที่ผ่านมา หลายๆ คน ต่างเชื่อถือ น.ส.ประทุมศีรี เพราะเขาเคยไปออกรายการทีวีชื่อดังรายการหนึ่ง ซึ่งพิธีกรที่สัมภาษณ์ออกรายการดังกล่าวก็เป็นพิธีกรผู้มีชื่อเสียง ยิ่งทำให้ทุกคนยิ่งเชื่อใจอย่างไม่ลังเล ว่า น.ส.ประทุมศีรี เป็นผู้ใจบุญ เมตตาต่อน้องหมา ก่อนจะมาพบข้อพิรุธน่าสงสัยในภายหลัง ซึ่งอาจจะมีคนอื่นร่วมกันวางแผนเพื่อหลอกเอาเงินบริจาคตรงนี้โดยอาศัยจุดอ่อนเรื่องความสงสารน้องหมาที่เจ็บป่วยเป็นเครื่องมือ
ด้าน ร.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาสั่งการอีกครั้ง