เหยี่ยวถลาลม : คุณวิเศษ

คุณวิเศษ

อดีตพุทธะอิสระให้สัมภาษณ์ชัดถ้อยชัดคำในรายการ “กฤษนะล้วงลูก” เมื่อ 25 มกราคม 2556 ว่า “ชั้นไม่ได้ต้องการเป็นพระอริยสงฆ์ ไม่ได้ต้องการเป็นพุทธสาวก ชั้นปรารถนาจะเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต”

อรหันต์นั่นคือ สาวกของพระพุทธเจ้า แต่ที่ชั้นจะเป็น คือพระพุทธเจ้า !

เล่นเอา อึ้ง ทึ่ง ! งง !

Advertisement

ยังอวดว่าผู้คนพากันเรียก “หลวงปู่” มาตั้งแต่พรรษาแรกที่บวช

ผ้ากาสาวพัสตร์นี้มีฤทธิ์นัก

แต่สำหรับผู้ที่เพ้อ หรือเพี้ยนประเภท “อวดอุตริมนุสธรรม” นั้นพระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ให้เป็น 1 ใน 4 ที่ต้อง “อาบัติปาราชิก” ซึ่งนอกจากจะ “ขาดจากความเป็นพระ” แล้วยังถึงขั้นที่กลายเป็น “คนที่พุทธศาสนาไม่ต้องการ”

นั่นคือ เมื่อ “ปาราชิก” แล้ว จะมาบวชใหม่อีกก็ไม่ได้

ถือเป็นคนที่ไม่สามารถจะฝึกอบรมฝึกปฏิบัติ เพื่อให้มีคุณสมบัติตามประสงค์ได้อีกต่อไป

“การอวดอุตริมนุสธรรม” ถูกนับให้เป็น “ยอดมหาโจร” ก็เพื่อไม่ให้ผู้ห่มผ้ากาสาวพัสตร์พูดพล่อย พูดเท็จ พูดจาหลอกลวงอวดอ้างสิ่งที่ไม่มีในตน อวดคุณวิเศษเป็นโน่นเป็นนี่ เห็นนั่นเห็นนี่ชักชวนให้ผู้อื่นมีศรัทธา เห็นคล้อย เชื่อตาม ทำตาม

ต้องอาบัติปาราชิกแล้วไม่ต้องเปล่งวาจา “สึก” ก็สิ้นจากความเป็นพระ !

ปัจจุบัน “พุทธะอิสระ” ได้เปลี่ยนสถานะไปแล้ว มีนามเรียกขานว่า “ผู้ต้องขังชายสุวิทย์ ทองประเสริฐ”

ในทางโลกวันนี้ นายสุวิทย์ต้องรับมือกับข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดหลายฐาน อาทิ ตามประมวลกฎหมายอาญา ตั้งแต่มาตรา 296, 298, 309 วรรคสอง, 309 วรรคสาม, 310 วรรคสอง, 339 วรรค 2 และมาตรา 340 อันหมายรวมตั้งแต่อั้งยี่ ซ่องโจร มีอาวุธ ร่วมกันในการชุลมุนต่อสู้ ทำให้บุคคลได้รับอันตรายสาหัส กักขังหน่วงเหนี่ยวจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ไปจนถึงการขู่เข็ญกรรโชก
เอาทรัพย์

เพียงเท่านี้ ถ้าแพ้คดี ถูกลงโทษไล่แต่ละกระทงก็หนักนัก

ยังมีคดี “ปลอมและใช้พระปรมาภิไธย” ตามมาตรา 250 กับ 252 อีก ต่ำสุดก็จำคุก 5 ปี ถึงสูงสุด 20 ปี

แต่ถึงแม้จะกำลังเผชิญกับชะตากรรมขั้นนี้ “สุวิทย์” ก็ยังมั่นใจในเครือข่าย

จึงประกาศกับสาวกว่าอีก 2 สัปดาห์ ข้าจะออกไป

“มีคุณวิเศษ” อะไร…ต้องติดตาม !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image