เหยี่ยวถลาลม : ความแตกต่าง

“พรรคอนาคตใหม่” เปิดตัวหวือหวาท้าทายการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศไม่เอาทุกอย่างที่เป็นมรดก คสช. ต่อต้านเผด็จการ ไม่เอาทหาร ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ไม่เอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี

ความน่าสนใจอยู่ที่ พรรคอนาคตใหม่เป็น “เลือดใหม่” ของวงการเมืองไทย น่าจะก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่นักการเมืองรุ่นเก่าคิดไม่ถึง และไม่กระทำ

ตามมาด้วยอีก 2 พรรคที่เคลื่อนไหวกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา

นั่นก็คือ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” กับ “พรรคพลังประชารัฐ”

Advertisement

ชื่อของทั้งสองพรรค ที่เน้นคำว่า “พลัง” ย่อมจะไม่ธรรมดาเหมือนอย่างเด็กน้อย “อนาคตใหม่” ที่พอเปิดตัวออกมาบรรดาผู้ใหญ่ คนรุ่นเก๋าเก่าๆ ก็พากันออกมาคำรามใส่ ไหนจะขู่ดำเนินคดี ไหนขู่จะยุบพรรค ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้เริ่มถักทอความฝัน

เพียงแค่ “แตกต่าง” ทางที่จะเดินข้างหน้าก็คดเคี้ยวขรุขระและมากด้วยขวากหนาม !

“ภิรมย์ พลวิเศษ” หนึ่งในแกนนำพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ตอนนี้เกือบ 60 คนจะย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐเพราะทุกคนเชื่อมั่นผู้นำและเชื่อมั่นว่าหลังเลือกตั้งจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ขณะที่ “รวมพลังประชาชาติไทย” นั้น ถึงแม้จะรู้ๆ กันอยู่ว่ามีภารกิจสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นนายกรัฐมนตรี (คนนอก) ภายหลังเลือกตั้งต่อไปอีก แต่ทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็จำต้อง “สงวนท่าที”

หากแต่ “สังศิต พิริยะรังสรรค์” ผู้ร่วมอุดมการณ์กลับเปิดเผยด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่งว่า

“โจทย์ก่อนเลือกตั้งปี 2562 คือ เป็นพันธมิตรกับพรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เพราะวันนี้ทหารเปิดตัวลงมาเล่นในสนามการเมือง และมีนโยบาย มีผลงานที่ชัดเจนคือการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ขณะที่ภาพลักษณ์ของอาจารย์เอนกกับกำนันสุเทพคือ เป็นผู้ผลักดันให้เกิดการปฏิรูป นี่คือสองส่วนที่มาบรรจบกัน”

“การบรรจบกันทางภารกิจ” นี้มีมาตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ในงานเลี้ยง ณ อาคาร แปซิฟิค ซิตี้คลับ ย่านสุขุมวิท คุณสุเทพเล่าว่า วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พลเอกประยุทธ์พูดว่า คุณสุเทพกับมวลมหาประชาชน กปปส.เหนื่อยมามากแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพบกที่จะเข้ามาดูแลแทนเอง

ถัดมาอีก 2 วัน ก็เป็น “วันรัฐประหาร” !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image