เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษปี 2561 ที่ติดระเบียบ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทำให้ไม่สามารถสั่งซื้อยา แต่ต้องใช้วิธียืมยาจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่า ปัญหาดังกล่าวมาจากการเพิ่งเริ่มใช้ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ฉบับใหม่เป็นปีแรก ทำให้ทุกคนกังวลเรื่องปฏิบัติไม่ถูกระเบียบ แต่ประเด็นสำคัญคือ ประชาชนยังต้องได้รับยาและไม่ขาดยา เราจึงใช้วิธียืมยาจากทาง อภ.ไปก่อน ทำให้ไปติดขัดเรื่องของการตรวจรับและจ่ายเงินคืน เนื่องจากยาที่ยืมไปกับกรรมการตรวจรับเป็นคนละชุดกัน ดังนั้น ตอนซื้อยามาคืน อภ. กรรมการตรวจรับยาตามคำสั่งจึงมองว่าไม่เป็นตามระเบียบ รพ.ราชวิถีจึงได้ขอความเห็นไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ละเว้นประเด็นดังกล่าว
“ขณะนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางไปมาแล้ว ประเด็นสำคัญที่จะรายงานคือ คืนเงินที่ยืมยาจาก อภ.มายอดรวมทั้งหมด 4-5 พันล้านบาทนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมาเราสามารถคืนให้แก่ อภ.ได้แล้วประมาณ 2.3 พันล้านบาท และจะทยอยจ่ายคืนในสัปดาห์หน้า และจากนี้ไปทุกอย่างเข้าสู่ระบบปกติ ซึ่งการยืมยาถือเป็นการแก้ปัญหาไปก่อน ส่วนปีหน้าปัญหาน่าจะลดลง ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก” นพ.มานัสกล่าว และว่า ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนระบบการจัดซื้อจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาเป็น รพ.ราชวถี แต่เป็นเพราะอุปสรรคในการดำเนินการมากกว่า และการจัดซื้อโดยมี รพ.ราชวิถีเป็นตัวแทนหน่วยบริการจัดซื้อนั้น ก็เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อภ. และ สปสช.
