เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการให้การช่วยเหลือด้านการแพทย์กรณีนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ช รวม 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า กระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ห่วงผู้ติดอยู่ในถ้ำ จึงได้พยายามสร้างระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการดูแลสุขภาพของทุกคนหลังออกมาจากถ้ำแล้ว คิดว่าในความหวังของพวกเราไม่เคยศูนย์เลย ยังมีความหวังว่าพวกเขาจะออกมาทั้ง 13 คน จึงเตรียมความพร้อมและร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งนี้ หลังออกมาแล้วจะต้องได้รับการดูแลตั้งแต่ต้น เรื่องการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดูแลอุณหภูมิ เรื่องสายตาที่ต้องอยู่กับความมืด เรื่องโลหิต เรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายที่อาจจะลดลงจากการที่ขาดอาหารและน้ำ และด้านอื่นๆ จนครบ
“การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำจะต้องนำส่งไปยัง รพ.ให้เร็วและดีที่สุด จึงได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ 6 ลำ หากฟ้าไม่ปิดเดินทางได้จะสามารถนำส่งไปยัง รพ.เชียงรายได้ภายใน 15 นาที หากฟ้าปิดก็จะมีรถพยาบาล 13 คัน นำส่ง 1 ต่อ 1 ไปยัง รพ.เชียงราย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้รับการดูแลตั้งแต่มีการเคลื่อนย้าย ส่วน รพ.เชียงรายเองนับเป็น รพ.ศูนย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติอยู่แล้ว ก็ได้เตรียมรับมือและดูแลทั้ง 13 คน แต่มีการแยกการดูแลออกจากผู้ป่วยทั่วไป นี่เป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดเพื่อลูกหลานของเรา เราห่วงมาก แต่ขอความร่วมมือว่าหากนำตัวออกมาได้แล้วอย่าไปมะรุมมะตุ้มเพราะจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้าย” นพ.ปิยะสกลกล่าว
