เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินมาตรการปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา ว่า หลังจากที่ชุดปฏิบัติการ 113 ทีม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัด ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ออกตรวจตราสถานประกอบการเพียง 2 วัน สามารถตรวจสถานประกอบการได้กว่า 160 แห่ง พบมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 99 คน จากสถานประกอบการ 9 แห่ง จากการตรวจสอบในจำนวนนี้ พบว่ามี 50 คนที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนอีก 49 คน ไม่มีใบอนุญาตทำงาน เจ้าหน้าที่ได้นำไปสอบสวนดำเนินคดีและปรับก่อนส่งออกไปนอกประเทศ และดำเนินคดีกับสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเหล่านี้ด้วย
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานนั้น เมื่อถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางแล้ว หากประสงค์จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย จะต้องเข้ามาในระบบเอ็มโอยูเท่านั้น
“อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ยังพบว่าขณะนี้ในภาคประมง ผู้ประกอบการแจ้งว่ายังขาดแคลนแรงงานอีก 42,000 คน ดังนั้น ในส่วนนี้ กกจ.ได้ให้สถานประกอบการที่มีความต้องการใช้แรงงานต่างด้าวยื่นแบบขอนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาให้พิจารณา เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน กกจ.ได้ประสานไปยังทางการพม่า และกัมพูชา เพื่อให้จัดหาแรงงานภาคประมงเข้ามาทำงานประเทศไทยด้วย ซึ่งในส่วนของพม่านั้น ประมาณกลางเดือนนี้จะมีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการจัดส่งแรงงานส่วนนี้ต่อไป” นายอนุรักษ์ กล่าว
