เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนล่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทางทะเลทุกแห่งทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ดูแลกวดขันเรือนำเที่ยวอย่างเข้มงวด แม้ขณะนี้ในฝั่งอันดามันจะมีอุทยานฯ ทางทะเลเปิดรับนักท่องเที่ยวเพียง 2 พื้นที่ คือ เกาะพีพี อุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ และเกาะหลีเป๊ะ อุทยานฯ ตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งเป็นทะเลใน มีจุดกำบังคลื่นลม โดยในส่วนของเกาะหลีเป๊ะ แม้ไม่ได้เป็นเขตอุทยานฯ แต่ต้องแล่นเรือผ่านพื้นที่อุทยานฯ ขณะที่ฝั่งอ่าวไทย มีอุทยานฯ ทางทะเลเปิดรับนักท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง และอุทยานฯ หมู่เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลกวดขันอย่างเข้มข้น หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยห้ามเรือท่องเที่ยวออกจากท่าเด็ดขาด
นายทรงธรรม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กรมอุทยานฯ ได้ติดตามและประสานงานกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อตรวจสอบสภาพภูมิอากาศในทุกพื้นที่ทุกวัน หากประเมินแล้วสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและอาจเกิดอันตราย เจ้าหน้าที่จะมีการออกประกาศห้ามเรือท่องเที่ยวออกจากฝั่ง มีการติดป้ายประกาศ และติดธงแดงเตือนทุกเช้า หากไม่เชื่อฟังก็เคยมีการจับปรับและดำเนินคดีมาแล้ว ดังนั้นยืนยันว่าหากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยจะไม่มีเรือออกจากอุทยานฯ เด็ดขาดและขอให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานฯ พีพี ที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก แม้จะมีการปิดพื้นที่อ่าวมาหยา แต่ในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในบริเวณเกาะพีพีก็ยังคงเปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวได้ จึงต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีเรือนักท่องเที่ยวชาวจีนล่มที่ จ.ภูเก็ตขึ้นอีก ซึ่งเหตุสลดที่เกิดขึ้นเป็นเหตุผลในการที่กรมอุทยานฯ ปิดการท่องเที่ยวอุทยานฯ ทางทะเลในฤดูมรสุม
