เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคม(คปค.) และประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ล่าสุดที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเห็นชอบรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินทดแทน ฉบับใหม่ วาระที่ 2 และ 3 และตามขั้นตอนจะประกาศใช้ภายในสิ้นปี 2561 ซึ่งความพิเศษของร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ คือ ไม่เพียงแต่ให้สิทธิสวัสดิการแก่ลูกจ้างเอกชนเท่านั้น แต่ยังเป็นครั้งแรกที่ครอบคลุมลูกจ้างส่วนราชการอีกด้วย โดยรวมลูกจ้างทั้งส่วนราชการและเอกชนรวมกว่า 10 ล้านคน อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกจ้างส่วนราชการปัจจุบันมีจำนวน 904,759 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้สิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว และจะเข้าสู่ระบบเงินทดแทน ตาม พ.ร.บ.ใหม่ ปัญหาคือ ยังมีลูกจ้างส่วนจ้างเหมาบริการ ซึ่งตัวเลขปี2560 มีจำนวน 475,828 คน
นายมนัส กล่าวอีกว่า ปัญหาคือ กลุ่มเหมาบริการทั้งหมดไม่ได้สิทธิใดๆ เลย ทั้งที่ก็ทำงานเหมือนๆกัน เพราะในกลุ่มนี้ก็ยังมีปัญหาเจอการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม มีการจ้างผิดประเภท เพราะจ้างแบบมีผู้บังคับบัญชา มีการทำงานแบบเหมือนลูกจ้างส่วนราชการทั่วไป ซึ่งถือว่าผิด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ที่ออกมาประกาศว่าจะปรับใหม่โดยใครจ้างผิดประเภทก็ต้องทำให้ถูก ซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาจริงๆ และยังมีอีกหลายกระทรวงก็เจอปัญหาแบบนี้ แต่ที่น่าห่วงสุดคือ สำนักงานประกันสังคม(สปส.) กลับหาทางออกให้กลุ่มจ้างงานเหมาบริการให้ได้สิทธิสวัสดิการจริง แต่ต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเองเพียงลำพัง คล้ายลักษณะของแรงงานนอกระบบ ทั้งๆที่มีนายจ้าง ด้วยให้จ่ายสมทบผ่านมาตรา 40 ซึ่งมองว่าไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง
นายมนัส กล่าวว่า ตนมองว่าการให้สิทธิลูกจ้างส่วนราชการต้องให้เท่าเทียมหมด แม้แต่กลุ่มลูกจ้างเหมาบริการก็ต้องให้ด้วย และการจะมาบอกว่าให้ไปจ่ายเงินสมทบมาตรา 40 ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบ แต่กลุ่มจ้างเหมาเป็นกลุ่มที่มีนายจ้างจ้างงาน ไม่ใช่ประกอบอาชีพอิสระ ถึงจะมีทางเลือกให้จ่ายสมทบแตกต่างออกไป อย่างจ่ายเดือนละ 300 บาทจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทุพพลภาพ ค่าปลงศพ แต่ก็ไม่ตอบโจทย์อยู่ดี ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้หากรัฐบาลให้ความสำคัญลูกจ้างส่วนราชการทุกประเภทก็สามารถทำได้ ด้วยการประกาศเป็นนโยบายให้ลูกจ้างส่วนราชการทุกประเภทได้สิทธิประกันสังคมด้วยการจ่ายสมทบ 3 ส่วนทั้งราชการ รัฐบาล และลูกจ้างเอง ก็จะทำให้พวกเขาได้สิทธิตามพ.ร.บ.กองทุนทดแทนฉบับใหม่
“ไม่เกินเดือนธันวาคมนี้ก็จะมีการประกาศใช้พ.ร.บ.เงินทดแทนฯฉบับใหม่ ระหว่างนี้อยากขอเชิญชวนลูกจ้างส่วนราชการที่ยังมีปัญหาจากส่วนนี้ ทำหนังสือมาถึงเครือข่ายฯ เพื่อทางเครือข่ายฯจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดและรายชื่อ หรืออาจส่งมา และทางเราจะเป็นตัวแทนไปร้องทางนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีสิทธิได้รับสวัสดิการตามกฎหมายเงินทดแทนที่จะออกมาในสิ้นปี 2561 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ลูกจ้างส่วนราชการทุกคน เพราะหากพวกท่านไม่ช่วยเรา ทางเครือข่ายฯฝ่ายเดียวก็ทำได้แค่ตีแผ่ ส่วนราชการไหนเห็นความสำคัญก็ดีไป แต่ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาระยะยาวอยู่ดี” ประธานสภาองค์การลูกจ้างฯกล่าว
นายโอสถ สุวรรณ์เศวต เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย (สสลท.) กล่าวว่า นับเป็นสิ่งที่ดีที่มีร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ให้แก่ลูกจ้างส่วนราชการ ปัญหาคือ กลัวจะไม่ครอบคลุมทุกคน เพราะลูกจ้างส่วนราชการมีหลายประเภท อย่างในกระทรวงสาธารณสุขมีเยอะมาก ทั้งลูกจ้างส่วนราชการที่จ้างทั่วไป กลุ่มนี้ได้สิทธิแน่ แต่ยังมีจ้างเหมาบริการ คือ จ้างเป็นชิ้นงาน แต่หลายครั้งก็จ้างต่อเนื่องเป็นปีๆ แต่บอกจ้างเหมาะ ซึ่งก็เกิดความสับสนก็มี รวมทั้งการจ้างรายวันก็มีเยอะ แม้ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขบอกว่ากำลังแก้ปัญหาจ้างเหมา แต่กลับพบว่า มีการจ้างรายวันจำนวนมากเช่นกัน และการจ้างรายวันก็ไม่ใช่ว่าจ้างแค่ 1-2 สัปดาห์ หลายคนถูกจ้างเป็นเดือนๆ เป็นปีๆ ก็มี แต่สิทธิสวัสดิการต่างๆกลับไม่ได้ ซึ่งตัวเลขแน่ชัดต้องไปถามกระทรวงฯ แต่แน่นอนว่ากระทรวงฯต้องบอกไม่มี
“จริงๆตัวเลขการจ้างงานส่วนราชการของกระทรวงฯ ที่เห็นชัดๆอยู่ที่ 140,000 คน ซึ่งเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) อยู่ที่ 90,000 คน ที่เหลืออีก 50,000 คนก็จะเป็นลูกจ้างชั่วคราว ก็เป็นแบ่งหลายประเภทอีก แต่จากทำงานและประสานข้อมูลเรื่องลูกจ้างในสาธารณสุข จะพบว่าเฉพาะลูกจ้างรายวันมีประมาณหมื่นคนได้ กระจายตามโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการดูแลหรือให้สิทธิสวัสดิการอย่างไร อยากขอความเห็นใจไปยังนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ช่วยพวกเขาด้วย” นายโอสถ กล่าว
