เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดีเดย์จัดระเบียบแผงค้าในถนนข้าวสารและบริเวณโดยรอบ ได้แก่ ถนนจักรพงษ์ ถนนรามบุตรี ถนนถนนตะนาว โดยมีแผนให้ตั้งแผงค้าบนถนนในเวลาที่กำหนดแทนการค้าบนทางเท้า แต่กลุ่มผู้ค้าไม่ยินยอมตั้งแผงท้าทายกฎหมาย ซึ่งล่าสุดผู้บริกหาร กทม.ได้ประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวนั้น
เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สน.ชนะสงคราม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจัดระเบียบถนนข้าวสาร ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ค้า สำนักงานเขตพระนคร สำนักเทศกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อยุติในการจัดระเบียบร่วมกัน ใช้เวลาประชุม 30 นาที
จากนั้น นายสกลธี ให้สัมภาษณ์ว่า ผลประชุมร่วมกันสรุปว่า วันนี้ กทม.จะทำการปรับผู้ค้าในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานทุกรายที่จัดตั้งแผงค้า ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท พร้อมให้ยุติการค้าตลอดทั้งวันในช่วง 4-5 วันนี้ เพื่อรอข้อบังคับจราจรกำหนดให้ผู้ค้าสามารถขายบนผิวจราจรได้ระหว่างเวลา 18.00-24.00 น.
“ข้อสรุปวันนี้ถือเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ค้ากับ กทม.แล้ว หากพรุ่งนี้ยังพบผู้ค้าฝ่าฝืนอีก กทม.จะไม่ขอเจรจากับผู้ค้า โดยจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนครและสำนักเทศกิจตรึงกำลังโดยรอบบริเวณ ส่วนเบื้องต้นที่ บช.น.แจ้งว่าไม่สามารถออกข้อบังคับจราจร เพราะเป็นการปิดผิวจราจรแบบถาวรนั้น กทม.จะจัดทำเป็นโครงการเพื่อขอปิดเป็นถนนคนเดินให้ผู้ค้าสามารถค้าขายได้ไปยัง บช.น. แต่การจัดทำโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลา ดังนั้น จึงขอให้ผู้ค้าชะลอการค้าออกไปก่อน ซึ่งผู้ค้าตกลงให้ความร่วมมือ โดยวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะร่วมพูดคุยกับผู้ค้าถึงความชัดเจนอีกครั้ง” นายสกลธี กล่าวและว่า ข้อบังคับจราจรชั่วคราวเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการจราจรและความปลอดภัยเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการตั้งแผงค้า ดังนั้น จึงต้องจัดทำเป็นโครงการและบริหารร่วมกัน และว่า ระหว่างนี้ยังมีผู้ค้าฝ่าฝืนก็จะปรับก็จะบังคับใช้กฎหมายทันที
