ยอดสงกรานต์ 6 วัน ดับ 397 โคราชครองแชมป์ 18 ศพ รมว.คมนาคมชี้สูงกว่าทุกปี เมาซิ่งไม่ลด

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดแถลงสรุปผลดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ประจำปี 2559 ว่า สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 380 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้บาดเจ็บ 380 คนโดยมีสาเหตุหลักคือขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 31.05 เมาสุรา ร้อยละ 28.16 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.88 รถปิกอัพ ร้อยละ 10.08 โดย จ.เชียงใหม่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 22 ครั้ง และมีผู้บาดเจ็บสูงสุด 22 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียงชีวิตสูงสุด คือ จ.ฉะเชิงเทรา จ.นครราชสีมา จ.พะเยา จังหวัดละ 4 ราย

“สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 5 วัน ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 397 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,271 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด 158 ครั้ง และยอดผู้บาดเจ็บสูงสุดสะสม 166 คน ได้แก่ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดที่มียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จำนวน 18 ราย” นายอาคมกล่าว และว่า ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ประกอบด้วย จ.ตราด จ.แพร่ จ.ยะลา จ.ระนอง และ จ.หนองบัวลำภู

นายอาคมกล่าวต่อว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นให้ความปลอดภัยในเทศกาลสงกรานต์ในช่วง 6 วันที่ผ่านมานั้น สถิติข้อมูลต่างๆ ทั้งอุบัติเหตุ ยอดผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ถ้าเทียบกับปีที่แล้วจะสูงกว่า โดยภาพรวมนั้นจากวิเคราะห์สาเหตุก็มาจากเมาแล้วขับ และขับรถที่มีความเร็วเกินกำหนด ขณะที่ยานพาหนะที่พบมากสุดก็เป็นรถจักรยานยนต์และรถปิกอัพ อย่างไรก็ตามเมื่อทราบสาเหตุหลักๆ แล้ว ก็จะนำเอามาเป็นแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการทางปฏิบัติต่างๆ ทั้งยึดรถให้ดำเนินการเด็ดขาด และจะมีมาตรการเตือนคนขับรถ โดยมีการจับความเร็ว ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะมีการติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อจับความเร็วของรถสาธารณะได้ทุกคน ส่วนในอนาคตอาจจะนำมาใช้รถส่วนบุคคลอื่นๆ ด้วย

เมื่อถามว่าตัวเลขใช้บริการรถสาธารณะที่ลดลงเป็นเพราะอะไร นายอาคมกล่าวว่า จากสถิติการเดินทางรถสาธารณะการเดินทางทั้งในกรุงเทพฯ เดินระหว่างจังหวัด และเดินทางระหว่างประเทศ ลดไป 6.8% ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมีตัวเลขต่ำกว่าประมานการ 10% แต่มีตัวเลขเพิ่มจากการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจำนวน บวก 3.7% จากปีที่แล้ว 1.62 ล้านคน ซึ่งปีนี้ 1.68 ล้านคน

Advertisement

“การที่มียอดคนใช้บริการรถสาธารณะนั้นเป็นเพราะประชาชนหันมาใช้รถส่วนตัวเพิ่มขึ้น เพราะราคาน้ำมันถูก ประกอบกับมาตรการลดหย่อนภาษีอีก จึงเป็นแรงจูงใจใช้รถส่วนตัวแทน ฉะนั้นการที่ตัวเลขใช้รถสาธารณะต่ำนั้น ขณะที่เราเตรียมจำนวนรถไว้เพียงพอ แต่คนโดยสารรถลดลง จึงไม่ถึงจำนวนที่เราประมานการไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในอนาคตกระทรวงคมนาคมได้วางแผนถึงการออกใบอนุญาตการขับขี่รถ โดยให้ทุกคนจะต้องผ่านโรงเรียนสอนขับรถเสียก่อน เพื่อให้ได้มีใบประกาศ เสมือนเป็นปริญญาบัตรใบหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะต้องเรียนก่อนถึงจะได้ ทั้งยังทุกขั้นตอนจะต้องยากขึ้น ต้องมาสอบสถานที่ที่กำหนด ทำนองเดียวกันหากใบขับขี่หมดอายุจะต้องมีการต่อใบขับขี่ด้วยการต้องผ่านการอบรม และผ่านทดสอบกฎกติกาใหม่ๆ ด้วย

////

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image