เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการนำรถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนใหม่มาให้บริการประชาชน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการทั้งในเส้นทางสายสุขุมวิท (หมอชิต-แบริ่ง) และสายสีลม (สนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า) รวมถึงส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่ง-สมุทรปราการ และสถานีหมอชิต-คูคต ว่า เมื่อช่วงเช้าได้ร่วมพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล มีโอกาสร่วมพูดคุยกับนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ทราบว่าเดือนกันยายนนี้จะมีขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสล็อตใหม่ทยอยเข้ามาอีกกว่า 10 ขบวน ซึ่งจากปัญหา เช่น น้ำรั่วภายในขบวนรถไฟฟ้าขณะฝนตกหนัก ประตูเปิดขณะเคลื่อนตัวให้บริการ หรือผู้โดยสารพลัดตกรางรถไฟฟ้า ฯลฯ จึงเสนอแนะให้บีทีเอสซีนำรถไฟฟ้าขบวนใหม่ใช้ทดแทนขบวนที่มีสภาพชำรุดจากการใช้งานนานหรือขบวนที่ต้องซ่อมแซม เพราะเห็นว่าหากเกิดอันตรายจะไม่คุ้มค่ากับชีวิตของผู้โดยสาร
“จ่าย 100 ล้านบาท ให้ผู้โดยสาร ผมมองว่ายังไม่คุ้มค่าต่อชีวิตที่จะสูญเสียไป ซึ่งทางบีทีเอสซีรับปากจะนำไปพิจารณา รวมถึงแจ้งว่า จะติดตั้งแผงกั้นผู้โดยสารทุกสถานี ตามที่ กทม.ประสานในรูปแบบของความร่วมมือเพื่อคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว และว่า ส่วนสัญญาสัมปทานที่จะสิ้นสุดปี 2572 ส่วนตัวไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา แต่จะให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการจัดทำสัญญาให้รัดกุมทุกด้าน อาทิ การก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ แผงกั้นผู้โดยสาร ฯลฯ ทั้งสายสายเขียวเหนือ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่จะเปิดให้บริการประชาชนในเดือนธันวาคมนี้ และสายเขียวใต้ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง
